ตำรวจห้วยขวางร่วมกับตรวจคนเข้าเมือง (ตม.1) เปิดปฏิบัติการตรวจค้นคอนโดย่านพระราม 9 รวบชาวต่างชาติ 16 ราย เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ พบชาวไต้หวัน 1 รายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีใหญ่ 3 หมาย จากทางการไต้หวัน ขณะอีก 15 รายเป็นชาวจีนลอบเข้าเมือง คาดมีขบวนการคนไทยให้การช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ร่วมกับพันตำรวจเอก พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.1 และ สน.ห้วยขวาง บุกเข้าตรวจค้นคอนโดแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 หลังได้รับเบาะแสว่ามีกลุ่มชาวต่างชาติจำนวนมากมีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ
ภายในห้องพัก เจ้าหน้าที่พบชาวจีน 15 คน และชาวไต้หวัน 1 คน จึงเชิญตัวทั้งหมดมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สน.ห้วยขวาง ผลการตรวจสอบพบว่า
มีผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 13 ราย กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 โดย 12 รายลักลอบเข้าเมือง, 1 รายอยู่เกินกำหนดอนุญาต ส่วนอีก 3 ราย ถือวีซ่าประเภท “อีลีท” ซึ่งยังไม่พบการกระทำผิดในขณะนี้
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ถูกระบุว่าเป็นบุคคลที่ทางการไต้หวันต้องการตัว โดยมี หมายจับ 3 หมาย ในคดี ยาเสพติด, ฉ้อโกง, และ ฟอกเงิน
เจ้าหน้าที่จึงเตรียมดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ก่อนส่งตัวให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประสานกับทางการไต้หวันเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
พันตำรวจเอก ประสพโชค เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาชาวไต้หวันเคยร่วมขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน
ก่อนหลบหนีเข้ามากบดานในไทยผ่านทางจังหวัดตาก โดยมี “เครือข่ายคนไทย” ช่วยพาหลบหนีและจัดหาที่พักในพื้นที่ห้วยขวาง
ตำรวจจึงอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลไปยังผู้ให้ความช่วยเหลือและรถยนต์ที่ใช้รับส่ง
จากการตรวจค้นห้องพักพบว่าเป็นของหญิงสาวชาวจีน ซึ่งเป็นแฟนของหนึ่งในผู้ต้องหา ภายในห้องพบโทรศัพท์มือถือรวมกว่า 8 เครื่อง ที่เก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระ
เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบข้อมูลภายในว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่
ผู้ต้องหาชาวไต้หวันให้การรับสารภาพว่า เคยถูกดำเนินคดีที่ไต้หวันในคดี “บัญชีม้า”ช โดยอ้างว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการหลอกลงทุน (Romance Scam)
ได้รับค่าจ้าง 50,000 เหรียญไต้หวัน หรือราว 50,000 บาท
สำหรับผู้ต้องหาชาวจีนอีก 12 คน ไม่มีข้อมูลการเข้าออกประเทศในช่องทางปกติ คาดว่าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อกระทำความผิดบางประการ
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
