วันศุกร์, พฤศจิกายน 28, 2025
หน้าแรกข่าวประชาสัมพันธ์กสม. ชูบทบาทไทยในเวทีสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค เดินหน้าขับเคลื่อน “สิทธิสิ่งแวดล้อม–สิทธิดิจิทัล–สิทธิผู้สูงอายุ” พร้อมตรวจสอบโครงการไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ และห้องวีไอพีเรือนจำกรุงเทพฯ

Related Posts

กสม. ชูบทบาทไทยในเวทีสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค เดินหน้าขับเคลื่อน “สิทธิสิ่งแวดล้อม–สิทธิดิจิทัล–สิทธิผู้สูงอายุ” พร้อมตรวจสอบโครงการไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ และห้องวีไอพีเรือนจำกรุงเทพฯ


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 39/2568 เผยผลงานโดดเด่นบนเวทีภูมิภาคทั้ง APF และ SEANF ผลักดันสิทธิมนุษยชนเชิงรุกใน 3 ประเด็นใหญ่ “สิ่งแวดล้อม–ดิจิทัล–ผู้สูงอายุ” พร้อมติดตามการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูงโคราช–วังน้อย และเปิดสอบข้อเท็จจริงกรณี “ห้องวีไอพี” เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
และ นายนฤนาท คุ้มไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 2 ร่วมกันแถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 39/2568 โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ เปิดเผยว่า กสม. ในฐานะสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย ได้เข้าร่วมประชุมความร่วมมือระดับภูมิภาคทั้งในเวที APF (Asia Pacific Forum) และ SEANF (South East Asia National Human Rights Institutions Forum) ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนใน 3 มิติหลัก ได้แก่ สิทธิในสิ่งแวดล้อม สิทธิดิจิทัล และสิทธิของผู้สูงอายุ

ในการประชุม APF ครั้งที่ 30 ณ เมืองนาดี ประเทศฟีจี (11–13 พฤศจิกายน 2568)
ไทยได้นำเสนอผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การตรวจสอบโครงการพลังงานขนาดใหญ่ ปัญหาหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 และการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พร้อมเสนอแนวทางส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนใน “สมัชชาสิทธิมนุษยชน” และการบรรจุสิ่งแวดล้อมเป็นวาระแห่งชาติ

ขณะเดียวกัน กสม. ยังได้หารือกับหน่วยงานพันธมิตรอย่าง OHCHR, UNDP และ World Justice Project (WJP) เพื่อพัฒนาเครื่องมือวัดด้านสิทธิมนุษยชน เช่น Human Rights Dashboard และ ดัชนีหลักนิติธรรม (Rule of Law Index) ที่สอดคล้องกับบริบทสังคมไทย

ส่วนในการประชุม SEANF ครั้งที่ 22 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย (18–20 พฤศจิกายน 2568) น.ส.พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธาน กสม. และ น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้นำเสนอผลงานสำคัญของไทย ทั้งการเปิดสำนักงานภูมิภาคภาคเหนือเพื่อขยายโอกาสเข้าถึงกระบวนการคุ้มครองสิทธิ การขับเคลื่อน “เมืองสิทธิมนุษยชน” และ “สมัชชาสิทธิมนุษยชน” รวมถึงการติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาหลังข้อตกลงหยุดยิง

นอกจากนี้ กสม. ไทยยังผลักดันความร่วมมือด้านการ ป้องกันการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย (OPCAT) ผ่านการทำงานร่วมกับกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงการตรวจเยี่ยมสถานควบคุมตัวเชิงป้องกัน

ที่ประชุม SEANF ยังมีมติร่วมผลักดัน ร่างอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิของผู้สูงอายุในระดับภูมิภาคและสากล ซึ่งประเทศไทยประกาศความพร้อมในการร่วมขับเคลื่อนเต็มที่

“เวที APF และ SEANF คือหลักฐานชัดเจนว่าประเทศไทยมีบทบาทนำในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิกและอาเซียนด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะประเด็นใหม่ ๆ อย่างสิทธิดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง”
— นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กล่าว

กสม. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีร้องเรียนโครงการก่อสร้างระบบโครงข่ายไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ นครราชสีมา 4 – วังน้อย ซึ่งประชาชนบางส่วนได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม โดย กสม. มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกระบวนการ รับฟังความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงเพิ่มเติม เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายสิ่งแวดล้อม

จากการเผยแพร่ข้อมูลว่ามี “ห้องพิเศษ” สำหรับผู้ต้องขังบางรายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กสม. มีมติให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน เพื่อพิสูจน์ว่าการปฏิบัติดังกล่าวเข้าข่ายเลือกปฏิบัติหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ พร้อมย้ำให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างโปร่งใสและเท่าเทียม

สรุป
การแถลงข่าวครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของ กสม. ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค ตั้งแต่การผลักดันสิทธิในเวทีนานาชาติ ไปจนถึงการตรวจสอบปัญหาภายในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

#กสม #สิทธิมนุษยชน #APF #SEANF #สิ่งแวดล้อม #สิทธิดิจิทัล #ผู้สูงอายุ #เรือนจำวีไอพี #โครงการไฟฟ้า500KV

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts