ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว “นานา ไรบีนา” ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน วงเงิน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และแต่งตั้งผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมของศาลอาญาเป็นผู้ดูแลระหว่างการปล่อยชั่วคราว เพื่อป้องกันความเสี่ยงและช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ต้องหา
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ศาลอาญา หลังพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. นำตัว นางไรบีนา อินทชัย หรือ “นานา ไรบีนา” อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาคดี “ฉ้อโกงทรัพย์ และกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” มาฝากขังครั้งแรก โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีมูลค่าความเสียหายสูง ผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีชื่อเสียง และยังมีผู้เสียหายทยอยเข้าร้องทุกข์เพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียหายบางรายเข้ายื่นคัดค้านการประกัน เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงการชดใช้ค่าเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังศาลพิจารณารายงานการประเมินความเสี่ยงแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหามีแนวโน้มจะไม่หลบหนีหรือก่อเหตุอันตรายอื่น จึงมีคำสั่ง อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างการสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์ประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข
- ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
- ให้แจ้งชื่อผู้ต้องหาต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
- และให้ แต่งตั้งผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมของศาลอาญา เป็นผู้กำกับดูแลและให้คำปรึกษาระหว่างปล่อยตัว
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า การแต่งตั้งผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตสังคม เป็นแนวทางตามมาตรการของศาลอาญา เพื่อช่วยดูแลผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการปล่อยชั่วคราว ทั้งด้าน จิตใจและพฤติกรรม โดยผู้ให้คำปรึกษาจะเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมด้านจิตสังคมตามมาตรฐานของสำนักงานศาลยุติธรรม มีหน้าที่พูดคุย รับฟัง และให้คำแนะนำ เพื่อช่วยลดความกดดันและเฝ้าระวังไม่ให้ผู้ต้องหากลับไปกระทำผิดซ้ำ
โฆษกศาลยุติธรรมระบุเพิ่มเติมว่า
“กระบวนการนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ต้องหาให้กลับมามีสติและเห็นคุณค่าตนเอง แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของสังคม ช่วยให้ผู้ต้องหาค่อย ๆ ปรับตัวและตระหนักถึงผลของการกระทำ เพื่อกลับคืนสู่สังคมได้อย่างสร้างสรรค์”
สำหรับคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมของศาลอาญา เป็นโครงการที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยเปิดให้ศาลใช้เป็นมาตรการกำกับผู้ต้องหาหรือจำเลยในระหว่างปล่อยชั่วคราว เพื่อเสริมการดูแลในเชิงบวก ลดโอกาสการหลบหนี และสร้างความมั่นใจให้กับสังคมและผู้เสียหายว่าทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรมอย่างรอบด้าน











