“เวย์ ไทเทเนียม” ควงภรรยา “นานา ไรบีนา” เข้าพบตำรวจ ปอศ. เปิดกระเป๋าเงินดิจิทัลตรวจสอบ หลังคดีฉ้อโกงยังอยู่ระหว่างสอบสวน ทนายเผยลูกความเครียดหนัก ขอเร่งทำงานหาเงินใช้หนี้ วอนสังคมเปิดโอกาสให้กลับมาชดใช้ด้วยน้ำพักน้ำแรง
เมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ที่อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
นายปริญญา อินทชัย หรือ “เวย์ ไทเทเนียม” และ นางไรบีนา อินทชัย หรือ “นานา ไรบีนา” พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กก.4 บก.ปอศ.)
โดยการเข้าพบครั้งนี้ เป็นการ เปิดกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายละเอียดธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งพบว่ามีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท หลังเสร็จสิ้นกระบวนการ ทั้งสองได้เดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชน
ทนายวอนสังคมให้โอกาส “เวย์–นานา” ฟื้นชีวิต
นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทั้งคู่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันลูกความยังอยู่ในช่วงตั้งหลักและมุ่งทำงานอย่างสุจริต เพื่อหาเงินมาชดใช้ให้กับผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากคดี
“ขอวิงวอนให้สังคมเปิดโอกาสให้ลูกความของผมได้ทำงาน เพื่อกลับมาชดใช้หนี้สินด้วยแรงกายแรงใจของตัวเอง พวกเขายังมีความตั้งใจจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น” — ทนายสายหยุด กล่าว
ทนายระบุว่า ตนเพิ่งมีโอกาสพูดคุยกับ “เวย์” เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ยังไม่ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากนัก แต่ยอมรับว่า หลังภรรยาถูกจับกุม “เวย์” มีอาการเครียดและวิตกกังวลอย่างหนัก
กระทบธุรกิจร้านตัดผมหลายสาขา – ช่างงานสั่นคลอน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจร้านตัดผมของ “เวย์” ซึ่งมีหลายสาขา ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากมีกระแสโจมตีทางออนไลน์และคำด่าทอในโซเชียล ทำให้ลูกจ้างและช่างตัดผมเกิดความไม่มั่นใจ ขณะที่ผู้สนใจเข้าซื้อกิจการบางรายเริ่มชะลอการตัดสินใจ
ทนายย้ำ – ทั้งคู่พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่กับตำรวจ
ทนายความยืนยันว่า “เวย์” และ “นานา” จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดี และขอให้ทุกฝ่ายใช้วิจารณญาณติดตามข่าวด้วยความเป็นธรรม











