เวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และ นายสุเชษฐ์ ผู้ช่วย พาผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นคุณแม่ของลูก 3 คน เข้าร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือและให้ดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ
นางเอ นามสมมุติ อายุ 42 ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเองเป็นแม่ค้าขายของ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีคนทักมาทางไลน์ ชักชวนให้ลงทุนผ่าน “แพลตฟอร์มอีโทโร่” (eToro) ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นแพลตฟอร์มปลอมที่สร้างขึ้นโดยใช้ AI หลอกลวง โดยเริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 5,000 บาท และได้รับผลตอบแทนกลับมาจริงในช่วงแรก ทำให้เกิดความเชื่อใจ กลุ่มผู้ถูกกล่าวหาใช้วาจาหว่านล้อมให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเชื่อใจและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตนจึงตัดสินใจลงทุนตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายสูญเสียเงินออมมาทั้งชีวิตจำนวน 3 ล้านกว่าบาทไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีเงินที่หยิบยืมคนนู้จักมาอีก 4 ล้าน รวมสูญไปเกือบ 8 ล้านบาท สร้างความทุกข์ระทมอย่างแสนสาหัส
นางเอ ระบุว่า หลังจากเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่ บช.น. กลับถูกบุคคลที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีเรียกร้องให้จ่ายเงินเป็น “ค่าทำคดี” ในอัตราสูงถึง 30 % ของมูลค่าความเสียหาย และต้องจ่ายเงินก้อนแรกก่อนถึง 5 แสนบาท สร้างความเครียดและความกังวลใจให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง
ขณะนี้ผู้เสียหายมีอาการเครียดหนัก คิดมาก และเป็นซึมเศร้าอย่างรุนแรงจนถึงขั้นมีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
อี้ แทนคุณ จึงรับเรื่องเพื่อเข้ามาช่วยเหลือในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดหลอกลวงมารับโทษดำเนินคดีตามกฎหมายให้จงได้ รวมถึงทวงคืนเงินที่สูญเสียไปให้กับผู้เสียหายโดยครบถ้วน
ทางชมรมสันติประชาธรรมจึงขอความเมตตาจากพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนง ร่วมเป็นกระบอกเสียงในการช่วยเหลือผู้เสียหายรายนี้ เพื่อให้คดีได้รับความสนใจและนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด อีกทั้งยังคาดว่าจะมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่ตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้อีกจำนวนมาก
