“ศรีสุวรรณ จรรยา” นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นร้อง ป.ป.ช. ขอไต่สวน รมว.พลังงาน และอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้อง กรณีพบรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมากจอดรอส่งออกที่ด่านช่องเม็ก ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา ชี้อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กระทบผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2568 นาย ศรีสุวรรณ จรรยา ในนามผู้นำองค์กร รักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน, อธิบดีกรมศุลกากร และ อธิบดีกรมสรรพสามิต
จากกรณีที่มีประชาชนเผยแพร่ภาพรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนหลายร้อยคัน เข้าแถวยาวบริเวณ จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นยุทธภัณฑ์สำคัญ และมีข้อสงสัยว่าอาจถูกส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยใช้เส้นทางผ่าน สปป.ลาว เพื่อหลีกเลี่ยงการควบคุมของรัฐ อันอาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ ในช่วงที่สถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชามีความอ่อนไหว
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ทั้งที่หน่วยงานรัฐควรตระหนักและตรวจสอบถึงพฤติการณ์ดังกล่าว แต่กลับปล่อยให้เกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมันจำนวนมากปรากฏตัวในพื้นที่ชายแดน จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกคำสั่งควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันเดียวกัน
โดยคำสั่งดังกล่าวระบุชัดเจนว่า “ห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด และยุทธภัณฑ์ต่าง ๆ” ส่วนการดำเนินการอื่นให้เป็นไปตามระเบียบและเงื่อนไขเดิม เพื่อป้องกันผลกระทบด้านความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังคำสั่งดังกล่าว มีบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่อย่างน้อย 2 บริษัท ออกแถลงการณ์ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นต่อการขนส่งน้ำมันในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งนายศรีสุวรรณ ตั้งข้อสังเกตว่า หากหน่วยงานรัฐเชื่อคำชี้แจงดังกล่าวโดยไม่ตรวจสอบเชิงลึก ย่อมเกิดข้อสงสัยว่าเหตุการณ์รถบรรทุกน้ำมันจำนวนมากที่ช่องเม็กเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ประเทศไทยมีโรงกลั่นน้ำมันอยู่เพียงไม่กี่แห่ง สามารถตรวจสอบเส้นทางการสั่งซื้อ ระบบภาษี และปลายทางการส่งออกได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสงสัยถึงบทบาทของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารในธุรกิจด้านพลังงานมาก่อน ว่าอาจรู้ถึงกลไกและเส้นทางการค้าน้ำมันเป็นอย่างดี แต่กลับไม่มีการเร่งรัดหรือดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง อันอาจเข้าข่ายการเพิกเฉยต่อหน้าที่
ด้วยเหตุนี้ องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำเรื่องดังกล่าวมายื่นเป็นเบาะแสต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้เร่งไต่สวนว่า เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เกี่ยวข้อง มีพฤติการณ์เข้าข่าย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ประเทศได้รับความเสียหายและกระทบต่อความมั่นคงของชาติในภาพรวม
