“…เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อม น.ส.ญาดาภา ลักษณัย อายุ 79 ปี (อายุจริง 81 ปี)…”
[inline_related_posts title=”คุณอาจสนใจเรื่องเหล่านี้” title_align=”left” style=”list” number=”4″ align=”none” ids=”” by=”categories” orderby=”rand” order=”DESC” hide_thumb=”no” thumb_right=”no” views=”no” date=”yes” grid_columns=”2″ post_type=”” tax=””]
อดีตอาจารย์โรงเรียนชายล้วนย่านปากคลองตลาด ผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เอกกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูก หญิงไก่ อดีตผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และคดีฉ้อโกง เมื่อหลายปีก่อน หลังพ้นโทษเมื่อปี 2564 ได้กลับมาใช้กลอุบายหลอกลวงเอาเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาทของผู้เสียหายไป
น.ส.ญาดาภา เล่าว่า เมื่อปี 2559 เคยถูกหญิงไก่หลอกฉ้อโกงทรัพย์ไปแล้วกว่า 14 ล้านบาท หลังจากนั้นหญิงไก่ก็ตกเป็นข่าวคดีหมิ่นเบื้องสูง และ ฉ้อโกงผู้เสียหายรายอื่น จนถูกจำคุก และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2564 เมื่อออกมาแล้วหญิงไก่ก็ติดต่อมาหา ใส่ชุดขาวอ้างว่าถือศีล กลับตัวเป็นคนดีแล้ว มาขอเป็นลูกบุญธรรม และบอกให้ตนเองย้ายไปอยู่ที่บ้าน หญิงไก่จะช่วยดูแลตนเอง โดยให้ตนเองนำเอกสารหลักฐานสำคัญต่างๆ มอบให้หญิงไก่ไป ตนเองก็หลงเชื่อ
นอกจากนี้หญิงไก่ยังอ้างถึงสถาบันเบื้องสูง และอ้างว่าสามารถช่วยให้อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศกลับมาไทยได้ โดยมีการนำรูปที่หญิงไก่ถ่ายคู่กับอดีตนายกรัฐมนตรีคนดังกล่าว และรูปถ่ายคู่กับเช็คเงินสดสั่งจ่ายจากอดีตนายกรัฐมนตรี มอบให้หญิงไก่ มูลค่า 50 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท มาให้ดู แต่อ้างว่าจะยังไม่นำไปขึ้นเงิน เพราะไม่ต้องการแบ่งเงินกับสามี ที่ตอนนี้กำลังฟ้องหย่า จึงขอยืมเงินตนเองก่อน พร้อมบอกว่าหากอดีตนายกรัฐมนตรีรายดังกล่าวกลับมาประเทศไทย จะเสนอให้มาซื้อที่ดินและอพาร์ทเม้นต์ของตนเอง แต่สุดท้ายกลับเอาไปประกาศจำนอง โดยที่ตนเองไม่รู้
ส่วนที่หญิงไก่อ้างว่าตนเองไปข่มขู่แบล็คเมล์เพื่อเรียกเงิน 20 ล้านบาทจากหญิงไก่นั้น น.ส.ญาดาภา บอกว่าหากมีหลักฐานก็นำมาแสดงได้เลย และหากจะแจ้งความที่ตนเองออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้ ก็ให้ไปแจ้งความได้เลย ส่วนกรณีที่ศาลยกฟ้องคดีที่ตนเองเคยฟ้องเอาผิดหญิงไก่นั้น ยืนยันว่าเป็นคนละคดี เกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสาร ไม่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงในครั้งนี้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วคดีนี้ได้ประสานให้ บก.น.2 ส่งต่อ สน.ประชาชื่น ท้องที่เกิดเหตุที่รับไปดำเนินคดีแล้ว