ผู้บังคับบัญชาพา “สิบโท” กระหน่ำยิงรุ่นน้องมอบตัวตำรวจ สารภาพปมขัดแย้งไม่พอใจผู้ตายส่วนตัว ยอมรับดื่มเบียร์มา 2 กระป๋อง จึงตัดสินใจก่อเหตุ และหลบหนีไปอยู่ป่าละแวกหมู่บ้านจนสำนึกผิดได้ และห่วงแม่ที่อยู่ลำพัง จึงติดต่อผู้บังคับบัญชาขอเข้ามอบตัวสู้คดี รับโทษตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 65 ที่สภ.เมืองนครพนม พล.ต.สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องนำตัว สิบโท มานิตย์ จันทะพินิจ หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร หรือ สห. มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี ฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงเพื่อนรุ่นน้องค่ายเดียวกันคือ สิบตรี วัชระ อินาลา หรือ สห.เกิ้ล อายุ 29 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร มทบ.210 นครพนม เสียชีวิต ขณะเข้าเวรป้อมยามรักษาการ หน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพอ้างว่า มีความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ตาย ไม่เข้าใจกันเกี่ยวกับหน้าที่การทำงานมาก่อน รวมถึงผู้ตายไม่ให้ความเคารพในฐานะรุ่นพี่ แต่ยอมรับเคยสนิทคุ้นเคยร่วมงานกันมาตลอด แต่ช่วงหลังมีปัญหาไม่พอใจส่วนตัว เป็นต้นเหตุของความคับแค้นใจมานานจนก่อเหตุขึ้น ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านไปทานข้าวเย็นกับแม่ ประจวบเหมาะมาเจอหน้าผู้ตายยืนเข้าเวรตู้ยามรักษาการ และมีการแสดงอาการสีหน้าไม่พอใจต่อกัน ซึ่งมีความแค้นในใจส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ไม่มีเจตนาวางแผนจะมายิงผู้ตายโดยตรง ด้วยความโมโหอารมณ์ชั่ววูบ บวกกับพกพาอาวุธปืนมาด้วย ยอมรับดื่มเบียร์มา 2 กระป๋อง จึงตัดสินใจก่อเหตุ และหลบหนีไปอยู่ป่าละแวกหมู่บ้านจนสำนึกผิดได้ และห่วงแม่ที่อยู่ลำพัง จึงติดต่อผู้บังคับบัญชาขอเข้ามอบตัวสู้คดี รับโทษตามกฎหมาย
โดย พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมทีมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง ภายหลังได้นำตัวคุมขังไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม รอการสอบสวนเพิ่มเติมและนำส่งดำเนินคดีที่ ศาลมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี
ด้านแม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนยังไม่รับรู้ว่าลูกชายทำอะไรผิดกฎหมาย มีแต่เจ้าหน้าที่มาตามหาตัว ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา โดยปกติลูกชายจะคอยเดินทางมาดูแลซื้อกับข้าวให้แม่ หากวันไหนไม่ได้เข้าเวร เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว มาตลอดหลังจากพ่อเสียชีวิตมากว่า 10 ปีแล้ว โดยตนมีลูกเพียง 2 คน สห.วิทย์ เป็นลูกชายคนโต ปกติพื้นฐานเป็นคนเงียบ ตั้งใจทำงาน ภูมิใจที่ลูกได้รับราชการ หลังจากไปเป็นพลทหาร และสอบเลื่อนชั้นเป็นทหารนายสิบ เข้ารับราชการเป็นสารวัตรทหารได้ เมื่อ 6-7 ปี ที่แล้ว หากลูกกระทำลงไปในทางที่ผิดก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตามกฎหมาย
ส่วน นายมานิต ศรีทองทา อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านโพนสวาง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับสิบโท มานิตย์ จันทะพินิจ หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ เป็นลูกบ้าน เสมือนลูกหลาน เห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นครอบครัวที่น่าสงสาร ยากจน พ่อเสียชีวิตแต่ยังเด็ก มีพี่น้อง 2 คน ต้องเป็นเสาหลักดูแลพ่อแม่ และครอบครัว เริ่มเข้าเป็นพลทหาร และสอบเลื่อนตำแหน่งรับราชการ เป็นสารวัตรทหาร ถือเป็นความภูมิใจของญาติพี่น้อง อีกทั้งถือว่าเป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อยมาตลอด ไม่ก้าวร้าว และยังเป็นลูกกตัญญูที่ดูแลแม่ และได้รับคัดเลือกมอบบ้านผู้ยากจนให้ ตามโครงการของกองทัพบก เพราะไม่มีที่อยู่อาศัย สุดท้ายไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อทำผิดแล้วต้องมารับโทษทางกฎหมาย ยอมรับสภาพกับการกระทำของตัวเอง จากโทษหนักจะได้เป็นเบา