วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจการเงินบิทคับ “คือ” ผู้ร้าย หรือ “เป็นแพะ”

Related Posts

บิทคับ “คือ” ผู้ร้าย หรือ “เป็นแพะ”

อย่าให้คนกังขาว่า … ไร้จิตนาการ ตรวจสอบเข้มข้น ตีชิ่งล้มดีลหรือไม่
อย่าหลงทาง รอยักษ์เข้าตลาด เปิดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอล คนจะครหาว่าเอื้อประโยชน์

“…บิทคับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาขบวนการล้มธุรกิจเหรียญที่เด่นดัง เกินหน้าเกินตา หรือว่าทั้งหมดเพื่อรอเกมส์ธุรกิจของเจ้าสัวบางรายหรือไม่? ที่กำลังตั้งลำเข้ามาต่อสู้ในธุรกิจเดียวกันนี้…”

การล้มดีล ระหว่างไทยพาณิชย์ SCBS กับ Bitkub ใครได้ประโยชน์…ยังน่าสงสัย

แต่ผู้เสียหายคือเอกชนไทยที่มีความตั้งใจ มีอะไรซ้อนเงื่อนหรือไม่ เพราะหลังจากประกาศแยกย้ายกับบิทคับอย่างเป็นทางการ ส่วน SCBS ก็คงตั้งลำ หันมาประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตอลเองเต็มตัว

ตามรายงานข่าว ไทยพาณิชย์ เลิกซื้อกิจการ Bitkub ยังไม่สามารถระบุเหตุผลชัดเจน ว่าเกิดจากอะไร แล้วต้องแก้ไขอย่างไร เนื่องจาก SCBS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ “ผู้ซื้อ” และบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ “ผู้ขาย” ได้ตกลงร่วมกันที่จะยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นในบริษัทบิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565

ทั้งที่ประชุมคณะกรรมการ คร้ังที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ได้มีมติอนุมัติให้ SCBS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัทบิทคับ ออนไลน์ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Bitkub คิดเป็นมูลค่า รวมประมาณ 17,850 ล้านบาท

ต้องขีดเส้นใต้ระหว่างบรรทัด ถ้อยแถลงของไทยพาณิชย์ ที่ระบุว่า …ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ และ SCBS ได้ร่วมกันดำเนินการสอบทานธุรกิจ (due diligence) ด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ขายและ Bitkub โดยในระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ

และขีดเส้นใต้อีกวรรคตอน ที่ระบุว่า …. อย่างไรก็ดีถึงแม้การสอบทานธุรกิจจะไม่มีข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติอันเป็นนัยสำคัญ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เนื่องจาก Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว

ทั้งที่การตัดสินใจร่วมทุนเพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในช่วงเริ่มต้น แต่กลับกลายเป็นตาลปัตร หลังจากที่บิทคับที่ประเด็นกับ ก.ล.ต. อย่างนั้นหรือ…?

นักวิเคราะห์บางราย มองว่าการล้มดีลนี้ถือเป็นข่าวบวกกับ SCB เพราะถือว่าธนาคารได้ปลดตัวเองออกมาจากความยุ่งยาก และประเด็นที่ตลาดกังวลค้างคามานาน อีกทั้งการละเมิดข้อกำหนด ก.ล.ต. ของ Bitkub ในอดีตที่ผ่านมา อาจจะทำให้ชื่อเสียงของ SCB ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยในช่วงกลางปีที่ผ่านมานี้ ก.ล.ต. ได้สั่งปรับ Bitkub จากการสร้างมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาด ถึงแม้ว่าความผิดนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน แต่สะท้อนถึงความน่าสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานและธรรมาภิบาลของ Bitkub

หลายฝ่ายเห็นภาพลางๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่วันนี้ BITKUB ดูเป็นผู้ร้าย ก็เพราะ เหตุผลตามที่ SCBS ให้ไว้หรือไม่ ซึ่งย้ำข้อความที่ระบุว่า

“มีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาในการหาข้อสรุปดังกล่าว”

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์​

น่าแปลกที่บริษัทสัญชาติไทยรายนี้ ถูกตั้งแง่ร้ายแบบกว้างๆ หลายต่อหลายครั้ง โดยท่านเลขาฯ ก.ล.ต. มักจะออกมาให้ข่าวด้วยตัวเอง ทำไมไม่ร่วมกันส่งเสริม ปรับปรุง แก้ไขปัญหาไปอย่างพร้อมใจ แต่กลับใช้วิธี กำหนด ควบคุม และมาตรการบังคับ แทนที่จะ ล้อมวงหาทางออกให้วงการฯ ได้พัฒนา ทำตามหน้าที่อย่างโปร่งใส

ที่ผ่านมา Bitkub Chain ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ KUB ยังถูกความไม่ตั้งใจ ของ ก.ล.ต ออกกฎควบคุมตามหลัง ทั้งที่ช่วงแรกเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบ เหรียญ KUB เองเสียด้วยซ้ำก่อนนำเข้าสู่กระดานซื้อขาย แต่ภายหลังกลับโดนข้อหาให้เรทติ้งดีเกินไป แต่นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่มากพอ ที่ส่งผลให้เหรียญคับมีข่าวเสียหาย เข้าหูขบวนการล้ม บิทคับในภายหลัง กระทบดีลธุรกิจมหาศาล

ความฝันที่ว่า เหรียญไทยเจ้าแรกซึ่งได้สร้างเทคโนโลยีบล็อกเชนของตนเองขึ้นมา จนนำมาสู่การสร้างเหรียญเพื่อรันในระบบภายใต้ชื่อ เหรียญ KUB โดยผู้สร้างชี้ว่าเหรียญ KUB ถือเป็นโอกาสใหม่ในระบบบล็อกเชนไทย เพราะแม้แต่ธนาคารระดับชาติบางแห่งก็ยังไม่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และขาดแคลนบุคลากรมาวางรากฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนเสียด้วยซ้ำ จนวันนี้ธนาคารบางแห่งยังต้องมาซื้อตัวบุคลากร เพื่อหวังกอบโกยองค์ความรู้ด้วยการ อัพเงินเดือนคูณ 2 ให้พนักงานจากเอกชนเจ้าของเหรียญ KUB ด้วยซ้ำ

บิทคับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาขบวนการล้มธุรกิจเหรียญที่เด่นดัง เกินหน้าเกินตา หรือว่าทั้งหมดเพื่อรอเกมส์ธุรกิจของเจ้าสัวบางรายหรือไม่? ซึ่งกำลังตั้งลำเข้ามาต่อสู้ในธุรกิจเดียวกันนี้

เลขา ก.ล.ต ที่ตั้งหน้าตั้งหน้าตรวจสอบธุรกิจบิทคับ และการออกกฎระเบียบตามก้น ตามหลังธุรกิจ การตั้งข้อหาตามหลังติดๆ พาลดับฝัน โปรเจ็ค “Fans Token” และอื่นๆ แต่ที่น่าเสียดายอย่างมากคือการใช้เหรียญดิจิตอลซื้อสินค้าทั้งที่ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายลงทุนมหาศาลทั้งออกแรงเงินและความสามารถ สามารถพัฒนาการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอลเป็นเงินบาทไทย ในความเร็วเพียงไม่กี่วินาที

แต่ภาครัฐกลับไปชูระบบเก่าผ่านแอพฯ แบบออกนอกหน้า ว่าเร็วกว่า-ค่าธรรมเนียมถูก พร้อมสำทับ ยกประเด็นเสถียรภาพเงินบาท คล้ายกับเป็นตัวประกัน ทั้งที่การซื้อขายแม้ใช้เงินดิจิตอล สุดท้ายก็ต้องแลกเป็นเงินบาทก่อนอยู่วันยังค่ำ

สวนทางกับบรรดาผู้ประกอบการที่พร้อมจะพัฒนาไปข้างหน้า เพราะตระหนักว่า ไม่ใช่เสือนอนกินเงินเดือนไปวันๆ และหากย้อนไปเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 65 รายงานข่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้ออกเกณฑ์กำกับการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่สนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 65 ตามหลังการประกอบธุรกิจของเอกชนใหญ่หลายรายที่เริ่มเปิดโอกาสให้ใช้เงินดิจิตอลซื้อสินค้าได้แล้วตั้งแต่ปี 2564

ผู้ประกอบการหลายรายปรับตัวเพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีแล้ว

อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ใช้เหรียญคริปโตฯ จ่ายค่าบ้านและคอนโดฯ แทนเงินสด ร้านกาแฟ “อินทนิล” ให้บริการซื้อสินค้าด้วยเหรียญดิจิตอลเพราะมั่นใจในความเร็วของการแลกเปลี่ยนจะรับมือกับความผันผวนราคาได้ เช่นเดียวกับธุรกิจศูนย์การค้าเครือ เดอะมอลล์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ที่มองว่านี่คือการปูทางเพื่ออนาคต ให้ประเทศไทยเนื้อหอม ดึงดูดนักคิดรุ่นใหม่ทั่วโลกได้มองภาพลักษณ์ประเทศไทย จนเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจ

ถอดหัวโขน นักอนุรักษ์คร่ำครึ จะได้อัพโปรไฟล์ย้ายตำแหน่ง แบบทันสมัยด้วยความสามารถ ควรจะมีจินตนาการ นำพาความเจริญเพื่อรองรับระบบนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่ๆ บ้าง

ย้อนคิดถึงวันที่เทคโนโลยีในวันนี้ เริ่มตั้งต้น ล้วนก่อร่างจากจิตนาการที่เป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อจิตนาการนั้นถูกความคิดในแง่ดี จึงกลายเป็นเทคโนโลยี นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ ใช้ความสามารถ ผลักดันตนเองจากบ้านเกิดเข้าสู่ ระบบนิเวศเทคโนโลยี ฝันจะไปดาวอังคาร วันนี้จะอาศัยอยู่ที่คาเมรอนเคาตี้ (Cameron County) รัฐเท็กซัส (Texas) ประเทศสหรัฐอเมริกา”

อลัน ทัวริง

อลัน ทัวริง นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ คิดต้นแบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบัน มีส่วนร่วมยุติการสงครามโลกครั้งที่ 2 ใช้ถอดรหัสของเครื่อง Enigma แม้แต่อังกฤษจะเก็บเป็นความลับ แต่ชาวอเมริกายกย่องเขาอย่างมาก จนนำมาสู่แรงบันดาลของแอปเปิล ซึ่งวันนี้เรามีไอโฟนใช้งาน”

“อินเทอร์เน็ตกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ จนสามารถนำมาสู่ประโยชน์เชิงพานิชย์เพราะจินตนาการ และวิธีวางรากฐานเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับนักพัฒนาในวันข้างหน้า”

สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นทัศนคติการทำงานเพื่ออนาคต ของหน่วยงานกำกับดูแล มากกว่าแค่นั่งห้องแอร์ ตึกสูง รับรายได้เดือนละเฉียดล้าน เพื่อตรวจสอบไปวันๆ ทั้งหมดควรริเริ่มจากตัวผู้นำหน่วยงาน ว่าจะเลือกหิวแสงไปวันๆ หลับหูหลับตารับใช้ใครบางคน หรือหันหน้าเข้าหาคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงใจ

อีกทั้งต้องจับตาอย่ากระพิบ ว่าหลังจากยักษ์รายใหม่บางรายที่กำลังแต่งตัวลงสนามปลายปี 2565 นี้ พร้อมเข้าสู่ธุรกิจนี้เมื่อไหร่ ก.ล.ต.ปล่อยเกียร์ว่างให้ยักษ์เดินสบายหรือไม่?

เพราะยักษ์รายนี้ก็หวังดึงส่วนแบ่งการตลาดจาก บิทคับ ให้ได้มากที่สุด ยักษ์ที่ว่าก็ต้องเส้นใหญ่ คอนเนคชั่นหนัก ทะยานขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นๆ ในช่วง 8 ปีนี้เอง

กติกาต่างๆ ในอนาคตไม่แน่ว่า อาจจะผ่อนคลายลง เมื่อมีใบสั่งไฟเขียวหรือไม่? เมื่อยักษ์พร้อมลงมาสนาม … เรื่องนี้สังคมไทยกำลังจับตามองว่า ผู้ใหญ่รังแกเด็ก เพื่อให้อีกฝ่ายเติบโตหรือไม่?.. ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ ก.ล.ต. !!!

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts