วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจการเงิน“คริปโตฯ” อนาคตการเงินยุคใหม่ ก.ล.ต.ต้องส่งเสริมแบบ “ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง”

Related Posts

“คริปโตฯ” อนาคตการเงินยุคใหม่ ก.ล.ต.ต้องส่งเสริมแบบ “ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง”

“คริปโตฯ” อนาคตการเงินยุคใหม่ ก.ล.ต.ต้องส่งเสริมแบบ “ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง” เพื่อสร้างความยุติธรรม และ ไม่กลายเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาของสังคม

“…ในความเป็นจริงธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี เป็นธุรกิจที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ความร้อนแรงและสดใสของธุรกิจนี้ก้าวมาถึงจุดที่ขนาดธนาคารพาณิชย์ยังอดรนทนไม่ได้ที่จะปรับตัวกระโจนลงสนามมาแข่งขันด้วย เพราะมองว่าอีกไม่นานธุรกิจนี้จะเข้ามาทำหน้าที่คล้ายๆ กับสถาบันการเงิน พูดง่ายๆ ก็คือเป็นธนาคารให้บริการเงินดิจิทัลนั่นเอง และถ้าแบงก์ยุคเก่าไม่เปลี่ยนมุมมองรองรับโลกการเงินยุคใหม่ ก็อาจจะโดนดิสรัปต์จนถึงขั้นล้มละลายได้เลย ในไทยมียักษ์ใหญ่ระดับโลกเข้ามาทำตลาด และอีกหลายรายก็เตรียมตัวจะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น “คอยน์เบส” แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ชั้นนำของสหรัฐ หรือ เบอร์ 1 ของโลกอย่าง “ไบแนนซ์” แสดงให้เห็นว่าธุรกิจนี้เป็น “นิวเอสเคิร์ฟ” ของโลกการเงินยุคใหม่ ซึ่งเราอาจปฏิเสธในการเข้าไปลงทุนได้ แต่ไม่อาจปิดกั้นการเติบโตของธุรกิจนี้ได้..”

คริปโตเคอร์เรนซี อนาคตโลกการเงินยุคใหม่ ก้าวมาถึงจุดที่ธนาคารพาณิชย์ยังอดรนทนไม่ได้ที่จะปรับตัวกระโจนลงสนามมาแข่งขันด้วย เพราะมองว่าอีกไม่นานจะเข้ามาทำหน้าที่คล้ายๆ กับสถาบันการเงิน หรือเป็นธนาคารดิจิทัล แบงก์ยุคเก่าไม่เปลี่ยนมุมมองรองรับโลกการเงินยุคใหม่ อาจโดนดิสรัปต์จนถึงขั้นล้มละลาย ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูธุรกิจนี้ จึงต้องส่งเสริมแบบไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งธุรกิจของคนไทย และ ธุรกิจข้ามชาติ เพื่อไม่ต้องกลายเป็น “ผู้ร้าย” ในสายตาของสังคม

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเตือนพี่น้องประชาชนศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซี โดยย้ำว่า นักลงทุนควรศึกษาให้รอบคอบก่อนการลงทุน และตรวจสอบว่าผู้ขายอยู่ในข่ายที่ต้องได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. หรือไม่ หากเข้าข่ายได้รับอนุญาตแล้วหรือยัง? โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th หรือทางแอปพลิเคชัน “SEC Check First”

และที่สำคัญควรตรวจสอบชื่อเว็บไซต์และรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจให้ครบถ้วนทุกตัวอักษร เพื่อป้องกันมิจฉาชีพปลอมแปลง

“รัฐบาลยังยืนยันว่าสนับสนุนการลงทุนด้านดิจิทัล เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ” รองโฆษกฯ กล่าว

แนวทางการประชาสัมพันธ์ดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ดีในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักลงทุนและประชาชนทั่วไปว่า หากจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ ควรพิจารณาอย่างถ้วนถี่ ไม่ใช่เฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัล แต่การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ยิ่งผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงยิ่งสูง การให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนคือสิ่งที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจนี้เติบโตมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อประชาชนมีความเข้าใจใน “แก่น” ของสินทรัพย์ดิจิทัล ก็จะพิจารณาลงทุนตามรูปแบบที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ใช่การเข้ามาลงทุนแบบหวังรวยเพียงเพราะเห็นคนอื่นลงทุนแล้วรวย หรือได้รับคำแนะนำจากคนรู้จัก ซึ่งคนแนะนำอาจแนะนำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้ถูกชักชวนก็ต้องศึกษา เรียนรู้ พิจารณาความเหมาะสมอย่างถ้วนถี่ ก่อนควักกระเป๋าลงทุน

ในความเป็นจริงธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี เป็นธุรกิจที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ในบ้านเราก็เริ่มมีการเปิดให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2018 ทิศทางก็ดูเหมือนจะไปได้ดี มีผู้เข้าไปใช้บริการจำนวนมาก จนทำให้ธุรกิจบริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอเรนซี กลายเป็นขุมทองที่เจ้าสัวรายใหญ่รายเล็กอยากเข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจ ความร้อนแรงและสดใสของธุรกิจนี้ก้าวมาถึงจุดที่ขนาดธนาคารพาณิชย์ยังอดรนทนไม่ได้ที่จะปรับตัวกระโจนลงสนามมาแข่งขันด้วย เพราะมองว่าอีกไม่นานธุรกิจนี้จะเข้ามาทำหน้าที่คล้ายๆกับสถาบันการเงิน พูดง่ายๆก็คือเป็นธนาคารให้บริการเงินดิจิทัลนั่นเอง และถ้าแบงก์ยุคเก่าไม่เปลี่ยนมุมมองรองรับโลกการเงินยุคใหม่ ก็อาจจะโดนดิสรัปต์จนถึงขั้นล้มละลายได้เลย

ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด เดือนพ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีคนไทยที่เปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับแพลตฟอร์มที่ได้รับไลเซนส์จาก ก.ล.ต. รวมกว่า 2.85 ล้านบัญชี ปัจจุบันนอกจากมีบริษัทของคนไทยที่เปิดให้บริการหลายรายแล้ว ยังมียักษ์ใหญ่ระดับโลกเข้ามาทำตลาด และอีกหลายรายก็เตรียมตัวจะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น “คอยน์เบส” แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตฯ ชั้นนำของสหรัฐ หรือ เบอร์ 1 ของโลกอย่าง “ไบแนนซ์” แสดงให้เห็นว่าธุรกิจนี้เป็น “นิวเอสเคิร์ฟ” ของโลกการเงินยุคใหม่ ซึ่งเราอาจปฏิเสธในการเข้าไปลงทุนได้ แต่ไม่อาจปิดกั้นการเติบโตของธุรกิจนี้ได้

สิ่งสำคัญคือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูธุรกิจนี้ ควรเน้นการส่งเสริมแบบไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งธุรกิจที่เป็นของคนไทย และ ธุรกิจข้ามชาติ รวมถึงควรกำหนดคุณสมบัติการออกเหรียญดิจิทัลที่ควรมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ วันนี้เทรดได้ พรุ่งนี้เทรดไม่ได้ เช่น ก.ล.ต. สั่งระงับการเทรดเหรียญบริษัทแห่งหนึ่งด้วยเหตุผลว่ามีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ตามกำหนด ทั้งที่มีการเทรดไประยะเวลาหนึ่งแล้ว กลายเป็นว่านอกจากสร้างความเสียหายให้กับบริษัทนั้นและคนที่ซื้อเหรียญนี้ไปแล้ว ยังถูกผู้ประกอบการรายอื่นที่เตรียมออกเหรียญลักษณะเดียวกันตั้งข้อสงสัยว่ามีการ “ซูเอี๋ย” ระหว่าง ก.ล.ต. หรือไม่?

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts