วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตร.เมืองชล แจง "ไม่เกี่ยว!"

Related Posts

ตร.เมืองชล แจง “ไม่เกี่ยว!”

โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ชี้แจง กรณีที่มีตำรวจจับกุมอดีตสามีภรรยา ยัดยา รีดทรัพย์ จับเข้าเซฟเฮ้าส์ยัดข้อหา ต่อมาอดีตภรรยาติดคุกฟรี 1 ปีเศษ ต่อสู้จนศาลยกฟ้อง ตามข่าวที่รายการโหนกระแสเสนอทางช่อง 3 ไปนั้น ยืนยัน! ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาติดของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีแต่อย่างใด แต่เป็นชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อม เผย ตำรวจฯ ภาค 2 ไม่ได้นำทรัพย์สินของอดีตสามีภรรยาคู่นี้มาส่งแต่อย่างใด มีเพียงพยานวัตถุและพยานเอกสารทางคดีที่เกี่ยวข้องทั้งนั้น

จากการที่มีอดีตคู่รักชายหญิงที่เลิกกันไปแล้วแต่ต้องรับชะตากรรมร่วมกัน หลังถูกชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ป.ป.ส. บุกค้นบ้านหายาเสพติด กวาดทรัพย์สินไปหมด ฝ่ายหญิงติดคุกอยู่เป็นปี สู้คดีจนชนะแล้วได้อิสรภาพคืน แต่ปรากฎว่าพอชนะคดีทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ กลับหายไปหมด ต่อมาได้ไปร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อหลายสำนัก รวมทั้งไปออกรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.

โดยนายชัย (นามสมมุติ) ฝ่ายชายเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 64 พื้นที่ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี ขณะนอนอยู่ในห้องเช่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาในบ้าน อ้างว่าเป็นตำรวจ ป.ป.ส. ไม่แต่งเครื่องแบบ ไม่แสดงบัตร เอาอาวุธปืนจ่อศรีษะจับใส่กุญแจมือ รื้อค้นบ้าน อ้างว่ามียาเสพติด ก่อนจะเอาทรัพย์สินในบ้านไป เป็นเงินสดกว่า 1 แสนบาท มีพระเครื่อง รวมทั้งทองคำ ก่อนจะคุมตัวตนขึ้นรถพาไปคอนโดของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ฝ่ายหญิง ตอนเวลาประมาณตี 1 บังคับให้ตนพาไปค้นที่ห้องของ น.ส.เอ ต่อ โดยตนบอกว่า เลิกกับ น.ส.เอ มากว่า 4 ปีแล้ว แต่คนที่พาตำรวจมาจับตนคือ เบสท์ เป็นเพื่อนสมัยเรียน ที่ห่างกันไป เพราะเขาเข้าออกเรือนจำบ่อยในคดียาเสพติด ซึ่งเขาน่าจะไม่รู้ว่าตนสองคนเลิกกันแล้ว จึงให้ข้อมูลตำรวจไปแบบผิดๆ คาดว่าเบสท์น่าจะเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจพวกนี้มาทำกับตน เพราะรู้ว่าตนมีเงิน

ตนถูกชายที่ควบคุมตัวทำร้ายร่างกาย บังคับให้ตนโทรตาม น.ส.เอ ลงมาเปิดประตูคอนโด แล้วยังถูกซ้อม จนทนไม่ไหวจึงไปเคาะห้อง น.ส.เอ และ น.ส.เอ มาเปิดประตู ชายกลุ่มนี้ก็เข้าไปรื้อค้น กวาดเอาทรัพย์สิน และจับกุม น.ส.เอ มาด้วย บังคับให้รับสารภาพทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ให้บอกว่ายาเป็นของตน ส่วนปืนรับจำนำมาจากตน บอกว่าถ้ายอมสารภาพตามนี้ จะได้กลับมาหาลูก

แต่หลังจาก น.ส.เอ ยอมพูดตามนี้ ตำรวจก็สั่งให้พวกตนจ่ายเงินคนละ 250,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว ตนต่อรองจนยอมจ่ายที่ 65,000 บาท แต่ น.ส.เอ ไม่ยอม กลุ่มที่จับกุมจึงบอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนบันทึกการจับกุมใหม่ จะให้ น.ส.เอ เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ จน น.ส.เอ ต้องไปติดคุกอยู่เป็นปี ไม่ได้รับการประกันตัว

หลัง น.ส.เอ ติดคุกไปกว่า 1 ปี หลังชนะคดีได้ออกมาไปติดต่อขอเอาทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้คืน มีรถยนต์ 1 คัน ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 20 บาท เงินสดอีก 4 หมื่นบาท แต่ ป.ป.ส.ภาค 2 ชลบุรีไม่ให้คืน ไม่ให้ดู บอกว่าเป็นความลับของราชการ และบอกไม่ได้ว่าของอยู่ที่ไหน

(ขวา) พ.ต.อ.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ (ซ้าย) พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี

ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้แถลงชี้แจงว่า ตำรวจที่ไปทำการจับกุมอดีตสามีภรรยาตามข่าวนั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาติดของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีแต่อย่างใด แต่เป็นชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 2

ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ตำรวจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 2 ได้สืบสวนขยายผลจับกุมตัวผู้กระทำผิดชาย ในความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และจับกุมตัวผู้ทำผิดผู้หญิง ในความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษและพระราชบัญญัติอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 2 ไม่ได้นำทรัพย์สินของสามีภรรยาคู่นี้มาส่งแต่อย่างใด มีเพียงพยานวัตถุและพยานเอกในสารทางคดีที่เกี่ยวข้องทั้งนั้น ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นสามีพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งฟื้นฟูตาม พรบ.ฟื้นฟู และประกาศคำสั่งของ คสช.โดยได้ส่งตัวไปฟื้นฟูที่อำเภอบางละมุง ส่วนในกรณีที่มีข่าวว่าพนักงานสอบสวนมีการเรียกเงินเพื่อแลกทำงานปล่อยตัวนั้นจากการตรวจสอบไม่พบการกระทำลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นอดีตภรรยา พนักงานสอบสวนได้ทำการส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยา ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการจับกุมมิชอบ ยัดยาเสพติด และมีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น ตำรวจภูธรภาค 2 อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่

โดยทางฝั่งของตนนั้นวันนี้เพียงมาชี้แจงว่า เรื่องการยึดทรัพย์นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แต่อย่างใดเท่านั้นเอง แต่ถ้าหากว่าทางผู้เสียหายนั้นยังมีอะไรที่ยังติดใจก็ขอให้มาพบกับตนหรือมาขอคำชี้แจงได้ที่ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ทุกเมื่อ

วิศาล : ชลบุรีปู โทร.0990538466

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts