พร้อมสู่ศึกเลือกตั้งใหญ่ เพราะถึงวันเข้าสู้โหมดช่วงหาเสียงแล้ว ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยเลย เดินทางต่อไปข้างหน้าไม่ได้ทางมันตัน ย้ำทางที่อยากไปก็คือพรรคเพื่อไทย แต่หนทางนั้นมันยังมืด!
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ก.ย. 2565 ที่ KSS PARK มุมร่มรื่น ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง อดีต ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 กล่าวเปิดเผยว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการกำหนดให้เป็นช่วงของการหาเสียง อันดับแรกของการลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ก.ย.65 ที่ผ่านมาทางพรรค พรปช. ได้เชิญให้เข้าไปพบ เพื่อสรุปตกลง คัดสรร เกี่ยวกับบุคคลที่จะลงสมัคร ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ลำลูกกา ตนเองก็เลยได้ร่วมเดินทางเข้าไปประชุมกับพรรค และได้ข้อสรุปวางตนให้ลงเลือกตั้ง ในพื้นที่ตำบลคูคต ตำบลลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ นายกแจ๊ส ได้สมัครชิงนายก อบจ.ปทุมธานี จึงชวนให้ตนมาช่วยสนับสนุนหาเสียงให้กับนายก อบจ.และ ส.จ.ในทีม จนได้รับชัยชนะ ก่อนที่จะเชิญชวนให้เข้ามาเป็นคณะทำงาน เป็นที่ปรึกษาพิเศษของนายก อบจ. และแนะนำให้ตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย ตนเองจึงได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้พรรค ปชป.สรรหาตัวบุคคลลงแข่งเลือกตั้งของ ปชป.เช่นกัน
มาวันนี้ถึงช่วงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐได้เชิญชวนไปอยู่ด้วย ส่วนพรรคเพื่อไทยเงียบไม่ได้รับการติดต่อจากพรรค หรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดปทุมธานีแม้แต่ครั้งเดียว
ซึ่งตนเองได้คุยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ นายกแจ๊ส เป็นอย่างดีแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจน ตนเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรค ถึงเรื่องความชัดเจนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพียงแต่ได้มีโอกาสเดินทางไปขอขมาลาโทษ ในเรื่องที่เคยอภิปราย โจมตี กับท่านทักษิณ ชินวัตร ที่เมืองดูไบ ในวันที่ 16 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ท่านก็ได้ต้อนรับเลี้ยงข้าวปลาอย่างดี ให้กำลังใจ ให้ความเมตตาอย่างอบอุ่น ต้องขอขอบคุณท่านอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากนั้นตนเองก็คอยมาตลอดว่าทางพรรคเพื่อไทย จะเรียกตนเองเข้าไปพบหรือพูดคุย ถึงข้อสรุปต่างๆ แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อเลย ทางการเมืองเราก็ถือว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก เพราะวันเวลามันมาถึงช่วงระยะเวลาประกาศให้เริ่มหาเสียงแล้ว
วันที่ 21 ก.ย.65 พรรคพลังประชารัฐ ให้คิวของจังหวัดปทุมธานีเข้าพบ ตนได้รับการเชิญชวนให้ไปสมัครในสังกัดพรรคพลังประชารัฐด้วย ตนจึงตัดสินใจไป เพราะเป็นวันเดียวเท่านั้น ที่จังหวัดปทุมธานี จะได้เข้าพบในเรื่องนี้
ผมจึงขอเปิดใจกับพี่น้องประชาชนว่า เมื่อตนเดินทางออกจากบ้านหลังเก่า(ปชป.) มาแล้ว ก็ไม่ได้เหลียวหลังกลับไปบ้านหลังนั้นเลย บ้านหลังนั้นเคยให้ความอบอุ่น เคยให้ความสำเร็จกับเรื่องการเมืองมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็รู้สึกขอบคุณบ้านหลังนั้น
วันนี้เดินทางมาถึงทางสามแพร่ง เดินทางต่อไปข้างหน้าไม่ได้ทางมันตัน ทางที่เราอยากไปก็คือพรรคเพื่อไทย แต่หนทางนี้มันยังมืด ไม่รู้ว่าถ้ายังเดินทางต่อไปทางนี้ เราจจะเจอหลุม เจอบ่อ หรือมีคนร้ายข้างทางซุ่มโจมตีเราหรือไม่ มันจะไปไม่ถึงในที่สุด
แต่ทางอีกฝั่งคือพรรคพลังประชารัฐ ที่เปิดบ้านรอรับ มีแสงไฟส่องสว่างไสว มองเห็นบ้านที่เปิดประตูรับเราอย่างดี ตนจึงได้ตัดสินใจเดินทางเข้าไปอยู่ที่บ้านหลังนี้ และเมื่อเดินทางเข้าไปเมื่อวันที่ 21 กันยายน 65 นั้น ก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของบ้านอย่างอบอุ่น ให้เกียรติเราเป็นอย่างดี
อยากอธิบายให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ว่า ตนเองต้องมีบ้านอยู่อาศัย มีชายคาให้หลบแดดฝน ก็เลยอยากขอความเมตตา ขอความเห็นใจ และขอโทษพี่น้องประชาชน 3 ปีที่ผ่านมาผมทำงานในนามคนรักปทุม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นพี่น้องชาวเสื้อแดง พี่น้องพรรคเพื่อไทยนั่นเอง ที่ผ่านมาผมก็อยู่ในพื้นที่ตรงนี้ ผมก็ไม่ได้เลือกว่าจะเป็นพี่น้องเสื้อแดง พี่น้องเสื้อเหลือง หรือเสื้ออะไรผมก็เข้าไปช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ที่มี ตามกำลังที่พอทำได้ จะเข้า 3 ปีวิกฤตโควิดก็ทุ่มเท ทั้งรับมอบงานจาก อบจ.ประสานเรื่องฉีดพ่น ทั้งวัคซีนโควิดที่ฟิวเจอร์พาร์ค และเซียร์รังสิต ส่งยาสมุนไพร นำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เสาะหาโรงพยาบาลเพื่อนำผู้ป่วยเข้ารักษา ประสาน สปสช.นำATKตรวจคัดแยกผู้ป่วยเข้ากักตัว นำถังออกซิเจนเข้าช่วยผู้ป่วยจะสิ้นลมปราณ มืดค่ำดึกดื่นค่อนคืน หามรุ่งหามค่ำ จัดหาโรงศพนำผู้เสียชีวิตออกจากบ้านสู่เตาเผา รวมถึงระดมทุนด้วยตนเองกับกลุ่มจิตอาสาทำครัวคนรักปทุมลำลูกกา ทำอาหารกล่องร่วมแสนกล่อง ด้วยคนครัว คนล้างหม้อ คนหุงข้าว คนจัดห่อ สายนำส่ง เสี่ยงภัยจากโรคติดต่อร้ายแรงโควิด จนได้รับพระราชทานวัตถุดิบประกอบอาหารจากสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดาอีกด้วย เหมือนกับที่เคยช่วย คนที่อยู่ในบ้านที่ถูกนำ้ท่วมถึง 3 เดือนในปี 54 ตนทำงานมาจวนจบถึงวันนี้
หากไม่พอใจก็ขอให้ท่านสงสาร เมตตากันบ้างอย่าได้ขว้างปา ด่าทอกันมากมาย เหมือนกับว่าตนมีค่าเฉพาะยามฉุกเฉิน แต่ในยามเลือกตั้ง กลับเหยียดหยามว่าตนไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีจุดยืน ผมขอช่วยเหลือสังคมถึงจะไปสังกัดพรรคไหน จะเข้าช่วยผู้ด้อยโอกาสทุกคน ในทุกยามที่มีโอกาส ต่อไป
หรือท่านจะสนับสนุนผม การเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็มีทางออก เพราะว่าการเลือกตั้งมีการเลือกแบบบัตร 2 ใบ การกาบัตรเลือกตั้งก็สุดแท้ แล้วแต่พี่น้องประชาชน ชอบพรรคไหนก็กาพรรคนั้นไปได้เหมือนเดิม แต่ผมขอฝากบอกว่า
“เลือกคนทำงานไปเป็น ส.ส. เลือกพรรคที่ชอบพอไปจัดตั้งรัฐบาล”