สำนักข่าว CNN ออกมาชี้แจงหลังโดนทัวร์ลงยับปมบุกทำข่าวถึงด้านในศูนย์เด็กเล็กฯ แพร่ภาพคราบเลือดสดๆ ทั่วโลก ยันได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปเก็บภาพได้ แต่ตอนออกมากลับมีการติดตั้งแถบปิดล้อมใหม่จึงทำให้ต้องปีนรั้วออกมา สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฯ ประณาม ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตอกกลับถ้าเป็นเหตุอาชญากรรมร้ายแรงในสหรัฐฯ ซีเอ็นเอ็นจะกล้าทำอย่างนี้หรือไม่?
จากกรณีผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศวิจารณ์ หลังที่ผู้สื่อข่าว CNN เข้าไปทำข่าวถึงด้านในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู สถานที่เกิดเหตุกราดยิง เห็นคราบเลือดและสิ่งของต่างๆ กังขาว่าได้รับอนุญาตจริงหรือไม่ หลังปรากฏภาพผู้สื่อข่าวและช่างภาพปีนรั้ว
สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ ประณามผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น ปีนรั้วศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรรค์ จ.หนองบัวลำภู บุกถ่ายทำจุดเกิดเหตุ โดยอ้างว่าได้รับอนุญาตทั้งๆ ที่ไม่ปรากฏหลักฐาน
ชี้! ละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตอกกลับถ้าเป็นเหตุอาชญากรรมร้ายแรงในสหรัฐฯ ซีเอ็นเอ็นจะกล้าทำอย่างนี้หรือไม่?
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2565 CNN ทวีตชี้แจงประเด็นผู้สื่อข่าวปีนรั้วศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรรค์ จ.หนองบัวลำภู บุกถ่ายทำจุดเกิดเหตุ ว่า
“ทีมงานของ CNN เข้าไปถ่ายทำในศูนย์เด็กเล็กที่หนองบัวลำภูพร้อมกับสื่ออื่นๆ ในช่วงเวลาที่ได้มีการนำแถบปิดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกแล้ว ขณะที่ถ่ายทำเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่อยู่ในอาคารได้พูดคุยกับทีมงานของ CNN และให้เข้าถ่ายทำภายในได้ โดยทีมได้เก็บภาพภายในศูนย์ฯ เป็นเวลาประมาณ 15 นาที และเมื่อกลับออกมากลับพบว่าได้มีการนำแถบปิดล้อมกลับมาติดตั้งในสถานที่ทำให้ทีมงานต้องปีนออกมาจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก”
ด้าน นายดนัยโชค บุญโสม นายก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง ได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย โดยมี พ.ต.ท.สุมขาย จำนงนิจ รอง ผกก.(สอบสวน) รับแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 นายดนัยโชค บุญโสม นายก อบต.อุทัยสวรรค์ เปิดเผยว่าสั้นๆ ว่า ตนยังไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดของเหตุการณ์ เนื่องจากตามปกติแล้วไม่น่าจะมีใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปข้างใน เพราะมีแนวเขตกั้นชัดเจน แต่ก็ยังมีคนเข้าไป เหมือนเป็นการซ้ำเติมเรื่องราวที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวออกมาว่า ผู้สื่อข่าวต่างชาติคนดังกล่าวถูกคุมตัวไปที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุดรธานีแล้ว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงกลับพบว่า ด้านหน้าปิดประตู มีแต่พนักงานทำความสะอาดข้างใน สอบถามเรื่องราวก็ไม่มีใครทราบ
ทำความรู้จักนักข่าวซีเอ็นเอ็น แอนนา โคเรน
สำหรับนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่เข้าไปถ่ายทำภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู คือ แอนนา โคเรน เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่เคยได้รับรางวัลเอมมี (Emmy Award) มาแล้ว โดยประจำอยู่ที่สำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของซีเอ็นเอ็น ที่ฮ่องกง
โคเรน เป็นนักข่าวมาแล้วกว่า 20 ปี รายงานข่าวเหตุการณ์สำคัญระดับโลกมาแล้วมากมาย ตามประวัติบนเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น ไม่ว่าจะเป็นการทำข่าวการต่อสู้เพื่อกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายไอเอสในอิรัก วิกฤตยูเครน พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มฟิลิปปินส์ การถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำสูงสุดคิม จอง อิล ของเกาหลีเหนือ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิในญี่ปุ่น และมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปีที่ประเทศไทย เมื่อปี 2554 รวมถึงวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
โคเรน เดินทางไปรายงานข่าวที่อัฟกานิสถานมาแล้วหลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ครั้งล่าสุด คือเมื่อปี 2564 ในช่วงที่สหรัฐฯ ประกาศถอนทหารออกจากประเทศ ถือเป็นการสิ้นสุดสงครามที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐฯ
โคเรน ยังเป็นผู้สื่อข่าวหลักที่ทำข่าวการประท้วงในฮ่องกงช่วงปี 2562 และ 2563
โคเรน เป็นผู้ประกาศข่าวสำหรับรายการสด ซีเอ็นเอ็น นิวส์รูม จากสตูดิโอในฮ่องกง และเป็นผู้ดำเนินรายการ “ทอร์ค เอเชีย” สัมภาษณ์ผู้นำโลก นักกีฬา ผู้ประกอบการชั้นนำ และผู้ทรงอิทธิพลต่างๆ ของโลก
ก่อนจะเข้าร่วมกับซีเอ็นเอ็นในปี 2551 โคเรนเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับและเคารพอย่างมากต่องานของเธอ โดยในปี 2565 รายงานข่าวเรื่อง ‘เจ้าสาวเด็กอัฟกัน’ ของเธอชนะรางวัลเอมมีในประเภท “ฟีเจอร์สตอรี่ยอดเยี่ยมรูปแบบฮาร์ดนิวส์ (ข่าวหนัก) : ประเภทสั้น” ซึ่งผลิตในปีเดียวกัน
การทำข่าวของโคเรนในเรื่องนี้ ได้ต่อยอดสู่การช่วยเหลือเด็กหญิงอัฟกัน และชนะรางวัลเกรซี (Gracie Award) ประเภท “ข่าวฟีเจอร์รูปแบบข่าวหนักยอดเยี่ยม”
ปี 2563 เธอยังเป็นหนึ่งในทีมข่าวซีเอ็นเอ็นที่ชนะรางวัล “ข่าวด่วน” จาก สมาคมรอยัลเทเลวิชันโซไซตี ในการติดตามทำข่าวประท้วงที่ฮ่องกงในปี 2562 และไม่นับรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
โคเรน สำเร็จการศึกษาด้วยปริญญาตรีสาขาการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ สจ๊วต ในประเทศออสเตรเลีย