ได้กลิ่น…ในเขตอุทยานฯช่วงนี้…เมืองไทยของเรา เนื้อหอม ชุ่มฉ่ำไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ ที่นักท่องเที่ยวแห่กันเข้ามาโอบกอด…หนาแน่นไปทั้งแผ่นดิน
เป็นทั้งโอกาสและบรรยากาศ…มีผลบวกต่อทุกบริบทบนทุกเส้นทางธุรกิจ “ท่องเที่ยวไทย” ในภูมิภาค ทั่วถึงกัน
เราจึงต้องกระตุกเส้นความรับผิดชอบ…ทั้งฝ่ายรัฐและเอกชนไว้หน่อย
ที่จะต้องร่วมรับผิดชอบ…ต่อผลประโยชน์แฝงอยู่กับธุรกิจท่องเที่ยว
เป็น “ภัย” ที่มองเห็นและมองผ่านไป…มีผลทำให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่รับผิดชอบ กับความคิดผิดๆ ที่ว่า…
“มือใครยาวสาวได้สาวเอา”
เกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นกับนักท่องเที่ยว กับธรรมชาติในพื้นที่อนุรักษ์…เริ่มพบและเห็นความผิดปรกติมากขึ้น
ในอดีต…ใครจะเข้าไปในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ หรือพื้นที่อนุรักษ์ ในผืนป่านั้นๆ ต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ด้วยความเข้มงวดกวดขัน ไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ ขึ้น!
ปัจจุบัน…พื้นที่อุทยานฯ ทั้งทางบกในป่าเขาลำเนาไพร ทางทะเลชายฝั่งและอ่าวไทย อันดามัน คือแหล่งแข่งขัน “ทำรายได้”
บางพื้นที่…แทบจะไม่มีเวลาพัฒนาองค์กรของตัวเอง เครื่องไม้เครื่องมือขาดแคลน เพราะงบฯ ไปตกหล่นข้างทาง ไม่ถึงมือผู้รับผิดชอบ
รายได้ดี…แต่รายจ่ายที่ไม่มีใบเสร็จ เงินสดไปหมุนเวียนอยู่กับ “รายจ่ายประจำ” เป็นรายเดือน ที่เด็กๆ ต้องเหนื่อยกันมาตลอด กับโครงการ
“ทำนาเลี้ยงนาย”
ช่วงนี้…เป็นช่วงทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ คนแวะไปในพื้นที่อุทยานฯ จนล้น…เกินกว่าจะดูแลทั่วถึงได้ทั้งหมด…คือรายได้ที่ว่า
ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักหรือที่พักกางเต็นท์ นักท่องเที่ยวเข้าๆ ออกๆ รับเงินสดกันจนแทบไม่ทัน เพราะเครื่องกดบัตรชำรุดโดยเจตนาแทบใช้งานไม่ได้
ผลกระทบที่ตามมาก็คือ…ขยะ ของเสียของเน่า ห้องน้ำกลิ่นเหม็นไปทั่ว มั่วไปหมด!
ทั้งลูกจ้างประจำ…และข้าราชการประจำ บ่นว่าเหนื่อยเหลือเกิน…ไม่อาจจะเก็บขยะที่นักท่องเที่ยวเห็นแก่ตัวมาพัก ทิ้งไว้
แต่ก็…พอมีแรงมีกำลังใจ จากรายได้เข้ากระเป๋าเป็นรายวัน มากโขอยู่
เหลือจากแบ่งไปเก็บเป็นกองกลาง…สำหรับงบฯ พิเศษ ในบัญชี “นกเลี้ยงนาย”
นี่คือ…ผลงานในบางแห่งของหน่วยงานรัฐฯ ที่นายทั้งหลายเขาเคลิบเคลิ้มอยู่กับสมบัติของชาติ ปัจจุบันนี้ครับ
อ้อ…ถ้าใครอยากเห็นแบบอย่างที่ว่านี้ ลองแวะไปสำรวจตรวจสอบได้ที่ภาคเหนือดู
“ชัยอารีย์” #สืบจากข่าว : รายงาน
ฟังบน Blockdit