“…สื่อซาอุฯ รายงานว่า ททท. รุกตลาดซาอุดีอาระเบีย จัดงาน Networking Lunch และ Amazing Thailand Fest 2022 เสนอการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่ม 10 เท่า…”
สำนักข่าวซาอุดิอาราเบีย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รุกตลาดซาอุดีอาระเบีย จัดงาน Amazing Thailand Networking Lunch 2022 ภายใต้แนวคิด Amazing Thailand Health and Wellness Product showcase นำทัพผู้ประกอบการไทย 11 ราย พบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวซาอุดีอาระเบีย ตอกย้ำภาพลักษณ์จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก่อนจัดงาน Amazing Thailand Fest 2022 ชวนสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว NFT (Nature, Food, Thainess) มั่นใจการขยายเส้นทางเที่ยวบินตรงและยกเว้นวีซ่า จะช่วยดันจำนวนนักท่องเที่ยวซาอุฯ เข้าไทยเพิ่มอีก 10 เท่า
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลไทยผลักดันการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 32 ปี รวมถึงการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน ททท. เล็งเห็นโอกาสในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทย-ซาอุดีอาระเบีย และต่อยอดขยายตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพใหม่ ตามกลยุทธ์ส่งเสริมตลาดต่างประแทศ ผ่านแคมเปญสื่อสารการตลาด “Visit Thailand Year 2022-2023 : Amazing New Chapters” จึงกำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ งาน Amazing Thailand Networking Lunch 2022 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท ริยาดห์ ภายใต้แนวคิด Amazing Thailand Health and Wellness Product Showcase
นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย จำนวน 12 ราย ประกอบด้วย ประเภทธุรกิจโรงพยาบาลและสถานประกอบการเชิงสุขภาพ 5 ราย ประเภทโรงแรมที่พัก 1 ราย ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ 5 ราย และบริษัท Thailand Privilege Card พบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวซาอุดีอาระเบีย ภายในงานประกอบด้วย การเจรจาธุรกิจในรูปแบบ Free Flow Speed Dating ระหว่างผู้ประกอบการไทยและซาอุดีอาระเบียเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนทิศทางธุรกิจ และการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยผู้แทนจาก ททท. นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการประชาสัมพันธ์ความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ (Specialised Expo) ปี 2571 จังหวัดภูเก็ต สอดรับกับนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาแผนการพัฒนาการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC)ตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Medical Hub) และจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ (Millennial) กลุ่มครอบครัว (Family) กลุ่มรักษาพยาบาล (Medical และ Health and Wellness) รวมทั้งกลุ่มเดินทางซ้ำ (Re-visit)
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคม 2565 ททท. ยังได้จัดงานส่งเสริมการตลาด Amazing Thailand Fest 2022 ณ ห้างสรรพสินค้าริยาด พาร์ค นำเสนอประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทยผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวหลัก NFT สะท้อนภาพลักษณ์ความสวยงามและหลากหลายของธรรมชาติ (Nature) อาหารไทย (Food) และความเป็นไทย (Thainess) ภายในงานมีการจัดบูธประชาสัมพันธ์ของผู้ประกอบการจำนวน 15 ราย ได้แก่ พันธมิตรในพื้นที่ตลาดซาอุดีอาระเบีย Almosafer , Akbar Travels และผู้ประกอบการไทย รวมถึง Thailand Privilege Card และคูหาบริการข่าวสารท่องเที่ยวของ ททท. ไม่เพียงเท่านั้น ททท. ยังชวนสัมผัสเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทยผ่านการแสดงเชิงวัฒนธรรม ได้แก่ หุ่นละครเล็กโจหลุยส์ รำไทย มวยไทย และเพลิดเพลินการสาธิตภูมิปัญญาไทยการวาดร่ม สานปลาตะเพียนและการทำเครื่องดื่มชาชัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทยนำไปสู่การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาอันใกล้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานตลอดระยะเวลาจัดงานไม่น้อยกว่า 30,000 คน
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียถือเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่และเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่น่าจับตามอง เนื่องจากมักเดินทางเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีความสนใจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยและชื่นชอบ ช้อปปิงสินค้าของไทยอย่างมาก ทำให้มีอัตราการใช้จ่ายสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถิติปี 2562 ประเทศไทยให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียแล้ว 36,783 คน สร้างรายได้ 3.2 พันล้านบาท ขณะที่ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 – 3 พฤศจิกายน 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวซาอุดิอาระเบียสะสมทั้งสิ้น 76,216 คน โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักคือกลุ่มที่เดินทางมาเพื่อการรักษาพยาบาล และนิยมเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ธรรมชาติ สถานบันเทิง และช้อปปิ้ง สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา พังงา และกระบี่
ทั้งนี้ จากปัจจัยสนับสนุนของการขยายตัวของสายการบินต่างๆ เช่น Emirates, Qatar Airways และ Etihad Airways ที่มีการเชื่อมโยงเส้นทางจากเมืองหลัก (Riyadh) และเมืองรอง (Jeddah) รวมถึงมีเส้นทางบินตรงเข้าประเทศไทยของสายการบิน Saudia เส้นทาง Jeddah – Bangkok จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และ เส้นทาง Jeddah – Riyadh – Bangkok จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และการบินไทย เส้นทาง Jeddah – Bangkok จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมถึงเส้นทางบินเชื่อมโยงจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือกาตาร์สู่ประเทศไทย และการยกเว้นการตรวจลงตรา ไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและกระตุ้นการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวซาอุฯ โดยสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) คาดการณ์ว่าในอนาคต ประเทศไทยจะสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย ได้อีก 10 เท่าจาก 36,738 ของปี 2562 สู่ 300,000 คน
#สืบจากข่าว : รายงาน