นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาคดีที่ชาวตำบลแหลมฟ้าผ่าน หมู่ 1 และหมู่ 3 อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จำนวน 124 คน ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าฯสมุทรปราการและนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฟ้าผ่า กรณีใช้อำนาจอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการท่าทราย มาดำเนินกิจการในพื้นที่ชุมชน ก่อให้เกิดมลพิษฝุ่นละออง เสียงดัง และความสั่นสะเทือนอย่างมาก เป็นเหตุให้บ้านเรือนชาวบ้านเสียหาย
คดีดังกล่าวชาวบ้านได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางมาตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากไม่ได้รับการตอบสนองต่อการร้องเรียนปัญหาของชาวบ้าน และผู้ประกอบการได้ดำเนินกิจการท่าทราย ก่อนที่จะได้รับการอนุญาตจากเทศบาลแหลมฟ้าผ่า เนื่องจากเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตาม พรบ.การสาธารณสุข 2535 แต่เทศบาลกับเพิกเฉย แม้ชาวบ้านจะได้ร้องเรียนถึงปัญหาและผลกระทบจากฝุ่นละอองทราย จากการตักทรายขึ้น-ลงเรือ และขึ้น-ลงรถบรรทุกเพื่อนำไปจำหน่ายในกิจการก่อสร้างต่างๆมาอย่างยาวนาน ซึ่งการประกอบกิจการดังกล่าวทำให้บ้านเรือนชาวบ้านที่ปลูกอยู่ข้างเคียงต้องทรุดพัง เสาและผนังแตกร้าว แต่กลับไม่ได้รับการดูแลแก้ไขหรือชดเชยเยียวยาจากผู้ก่อเหตุและหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่อย่างใด
ปัญหาดังกล่าวชาวบ้านจึงมาร้องเรียนของให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนได้ช่วยเหลือในการต่อสู้ทางคดีให้จนในที่สุดศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้นายกเทศมนตรีแหลมฟ้าผ่า ใช้อำนาจตาม ม.44 ม.45 ประกอบกับ ม.46 แห่ง พรบ.การสาธารณสุข 2535 ในการแก้ไขเหตุรำคาญเกี่ยวกับฝุ่นและเสียง ความสั่นสะเทือน จากการประกอบกิจการตักและขนทรายจากเรือบรรทุกทรายของบริษัทเอกชนผู้ประกอบการภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด
ทั้งนี้ หลังจากนี้ สมาคมฯจะดำเนินการขอให้ศาลปกครองออกคำบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยไม่ต้องรอจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ตามข้อ 25 แห่งระเบียบสำนักงานศาลปกครอง ว่าด้วยการดำเนินการบังคับให้เป็นไปตามคำบังคับของศาลปกครอง พ.ศ.2564 และขอเตือนผู้ประกอบการท่าทรายดังกล่าวว่า อย่ากล่าวอ้างข้อมูลอันเป็นเท็จว่าได้บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นด้วยการจ่ายค่าซ่อมแซมบ้านที่แตกร้าวให้กับชาวบ้านแล้วนั้น เป็นการบิดเบือนข้อมูลที่แท้จริงต่อศาล เพราะจนถึงวันนี้ชาวบ้านปฏิเสธมาโดยตลอดว่ายังไม่เคยได้รับการเยียวยาใด ๆ จากบริษัทผู้ประกอบการ ทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ หากผู้ประกอบการยังไม่แสดงความรับผิดชอบที่เป็นรูปธรรม นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
