ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดปราบปรามแก็งค์โจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ซึ่งตระเวนลักรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านซึ่งจอดรถอยู่บริเวณที่พักอาศัยและแหล่งชุมชนในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างหนักเป็นการสร้างความเดือนร้อนและกระทบการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. IDMB รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่ กรุงเทพฯว่าในห้วงตั้งแต่เดือน พ.ย.65 จนถึงปัจจุบัน พบแก็งค์มิจฉาชีพโจรกรรมรถจักรยานยนต์สร้างความหวาดวิตกกังวลแก่เจ้าของและ ผู้ครอบครองรถจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข จึงได้สั่งการให้ บก.สส.บช.น. เร่งรัดออกสืบสวนปราบปรามเพื่อดำเนินการทลายเครือข่ายขบวนการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ทั่วกรุง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้แก่ประชาชนโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 12.45 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น./ผอ.ศูนย์โจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ บช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.1 บก.สส.บช.น. และด.ต.อุทัย กิ่งแก้ว ผบ.หมู่ กก.สส.1 ร่วมกับ พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผบก.ภ.จว.อ่างทาง เพื่อร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย จว.อ่างทอง ร่วมกันจับกุมตัว
1.นายวีระนันท์ วิเนตร อายุ 27 ปี อยู่ที่ 125 หมู่ 4 ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จว.กาฬสินธุ์
2.น.ส.น้ำฝน วิเนตร อายุ 26 ปี อยู่ที่ 125 หมู่ 4 ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จว.กาฬสินธุ์
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถจักรยานยนต์ที่บรรทุกซุกซ่อนอยู่ภายใน จำนวน 18 คัน
(ซึ่งตรวจสอบแล้วพบรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ที่มีการแจ้งหายทั้งในพื้นที่ บางเขน , อ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง , อ.เมืองปทุมธานี และ อ.เมืองนครราชสีมา)
2.รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน 3ฒผ 4175 กรุงเทพ
3.รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน บย 4566 กาฬสินธุ์
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร”
จับกุมตัวได้ที่ ซอยโรงพลาสติกเก่า (ซอยยายคลอง) หมู่ 6 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จว.อ่างทอง
กล่าวคือจากกรณีเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.บช.น. IDMB เข้าจับกุมแก็งค์วัยรุ่นโจรกรรมรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล พร้อมขบวนการขนส่งรถที่ถูกโจรกรรมส่งเอเยนต์อีสานเพื่อส่งออกไปยังประเทศชายแดนเพื่อนบ้าน โดยสามารถยึดรถจักยานยนต์ที่เตรียมจะส่งออกนอกได้จำนวน 8 คัน โดยชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวน ขยายผลเรื่อยมา จนทราบว่า ยังมีขบวนการบรรทุกขนส่งรถที่ถูกโจรกรรมไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางทิศเหนืออีกขบวนการ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลและสืบทราบว่า จะมีรถบรรทุกตู้ทึบขนรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมส่งในนายทุนในพื้นที่ภาคเหนือ จึงได้ประสานและร่วมบูรณาการสังเกต แกะรอย และติดตามพฤติการณ์รถยนต์บรรทุกตู้ทึบต้องสงสัยจากพื้นที่ในกรุงเทพฯ ร่วมอาทิตย์ จนพบรถยนต์บรรทุกตู้ต้องสงสัย จึงได้ทำการสะกดรอยตามและติดตามจนแน่ชัดว่า กลุ่มรถยนต์ดังกล่าวน่าเชื่อว่าเป็นขบวนการขนส่งรถที่ลักมาในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงได้ติดตาม อย่างใกล้ชิด พบว่า ขบวนการดังกล่าวใช้เส้นทางขนส่งโดยผ่านในพื้นที่ อ.ไชโย จว.อ่างทอง จึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผบก.ภ.จว.อ่างทาง เพื่อร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชโย จว.อ่างทอง จนพบรถต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับผ่านบริเวณฝากซอยโรงพลาสติกเก่า (ซอยยายคลอง หมู่ 6 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จว.อ่างทอง) เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์ทั้ง 2 พยายามเลี้ยวรถหลบหนีด่านเข้าซอย แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้ในที่สุด โดย รถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน 3ฒผ 4175 กรุงเทพ มี นายวีระนันท์ วิเนตร อายุ 27 ปี ชาวกาฬสินธุ์ เป็นคนขับ และรถยนต์กระบะตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียน บย 4566 กาฬสินธุ์ มี น.ส.น้ำฝน วิเนตร อายุ 26 ปี ชาวกาฬสินธุ์ ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยา จากการตรวจค้นภายในพบรถจักรยานยนต์ที่บรรทุกซุกซ่อนอยู่ภายในรวมทั้งสิ้น 18 คัน ซึ่งตรวจสอบแล้วพบรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน ที่มีการแจ้งหายทั้งในพื้นที่ บางเขน, อ.นิคมพัฒนา จว.ระยอง , อ.เมืองปทุมธานี และ อ.เมืองนครราชสีมา จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับว่า ทั้ง 2 เป็นผัวเมีย รับจ้างขนส่งรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักส่งเอเยนต์นายทุนทั่วภาคเหนือเตรียมส่งออกประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยรับค่าจ่างเที่ยวละ 20,000 บาท ซึ่งทำมาแล้วติดต่อกันนาน 3-4 เดือน จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบข้อมูลการเดินทางขึ้นลงภาคเหนืออย่างต่ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงน่าเชื่อว่าปริมาณรถจักรยานยนต์ที่ถูกส่งมอบให้เอเยนต์ทางภาคเหนือเกือบ 300 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง สภ.ไชโย จว.อ่างทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ กล่าวว่า เราจะหยุดขยายผล ติดตาม จับกุม และดำเนินคดีทั้งขบวนการจนถึงที่สุด เพื่อตัดวงจรขบวนการส่งรถออกนอกประเทศนี้ ซึ่งจากข้อมูลที่ บก.สส.บช.น. รวบรวมพบว่า รถจักรยานยนต์จำนวนมากที่ถูกโจรกรรม ได้ถูกรวบรวมและนำส่งไปยังเอเยนต์ตามออเดอร์ที่สั่งไว้ เพื่อเตรียมส่งออกนอกประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก อันสร้างความเสียหายให้แก่สังคมและเป็นการซ้ำเติมประชาชน
“ขอแนะนำประชาชนหากเป็นไปได้ ให้จอดรถในที่ที่ปลอดภัย และควรเพิ่มมาตรการป้องกันเช่น ล็อคคอรถ การใช้กุญแจล็อคดิสเบรค หรืออาจเป็นอุปกรณ์ล็อคล้อ เป็นต้น และขอฝากว่าหากพบเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาที่เพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.”
