วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. รวบสาวหลอกลงทุนเทรดหุ้น “แชร์พริตตี้” พบเหยื่อนับ 100 ราย สูญเงินกว่า 100 ล้านบาท

Related Posts

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. รวบสาวหลอกลงทุนเทรดหุ้น “แชร์พริตตี้” พบเหยื่อนับ 100 ราย สูญเงินกว่า 100 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.บก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เกษมสู่บุญ สว.กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.

ร่วมกันจับกุม นางสาวเวธิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1833/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 1.) ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 2.) ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน 3.) ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน

สถานที่จับกุม บริเวณบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นางสาวเวธิกาฯ มีพฤติการณ์ในการประกาศโฆษณาผ่าน Facebook ส่วนตัว ชักชวนบุคคลใกล้ชิดและบุคคลทั่วไป ให้มาฝากลงทุนหุ้นกับตน เนื่องจากมีความสามารถในการเทรดลงทุน เคยชนะการแข่งขันนักเทรดในระดับโลก จึงเปิดรับฝากเทรดลงทุนเป็นแพ็คเกจ การันตีให้ผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ย 100% นอกจากนี้ในช่วงที่มีการโฆษณาชักชวน ผู้ต้องหามีการโพสต์ภาพการโอนเงินผลตอบแทนจำนวนมากๆ ให้กับลูกค้า เพื่อยืนยันว่าได้รับผลตอบแทนจริง พร้อมโพสต์แสดงภาพความสำเร็จจากการลงทุนด้วยการซื้อสินค้าแบรนด์เนม รถหรู ที่ดิน สร้างบ้าน ปลดหนี้ให้กับญาติพี่น้อง รวมถึงทำสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและเริ่มนำเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น จนต่อมาผู้ต้องหาไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้ตามที่ชักชวน จึงหลบหนีไป ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จนนำไปสู่การออกหมายจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ลงพื้นที่เข้าจับกุม หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า น.ส.เวธิกาฯ ยังมีหมายจับเพิ่มเติมอีก 11 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1027/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกงประชาชน 2.) โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 3.) กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

2.หมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 189/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 2.) ฉ้อโกง

3.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 18/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกง 2.) โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

4.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 17/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกงประชาชน 2.) โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

5.หมายจับศาลอาญา ที่ 1962/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกง 2.) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน 3.) กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปหรือโดยการแพร่ข่าวด้วยวิธีอื่น

6.หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 27622565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ตัวการในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

7.หมายจับศาลจังหวัดแม่สอด ที่ 197/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกงประชาชน 2.) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

8.หมายจับศาลจังหวัดแม่สอด ที่ 103/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกง 2.) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด

9.หมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 89/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกง 2.) ฉ้อโกงผู้อื่นผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้

10.หมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 215/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกงประชาชน 2.) กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 3.) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

11.หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 764/2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด 1.) ฉ้อโกงประชาชน 2.) กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน 3.) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนภัยประชาชน หากมีผู้ใดมาชักชวนลงทุนที่ให้อัตราผลตอบแทนเกินจริงและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอให้อย่าหลงเชื่อ และควรตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจจากสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนทุกครั้ง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. โทร. 085 828 9599

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts