ตำรวจ ปคบ. บุกรวบ “นารา เครปกระเทย” ที่บ้านแฟนหนุ่มในจังหวัดอยุธยา ก่อน คุมตัวมารับทราบข้อหา ฉ้อโกงประชาชน กรณีไลฟ์สดขายกล่องสุ่ม แต่ไม่นำส่งให้ลูกค้า
วันที่ 21 มี.ค. ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ( บก.ปคบ.) สามารถควบคุมตัว นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ “นารา เครปกะเทย” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่บ้านพักของแฟนหนุ่ม ในพื้นที่ อ.บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมอายัดโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 6 เล่ม ไว้ตรวจสอบ ก่อนนำไปตรวจค้นในอาคารพาณิชย์ ในพื้นที่เดียวกัน ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บสินค้า และ สถานที่ไลฟ์สดขายกล่องสุ่ม ซึ่งพบกล่องพัสดุภายในอาคารเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ตรวจสอบ
ขณะถูกควบคุมตัว นารา ได้อัดคลิป วิดีโอ ระบุว่า “ขณะนี้ถูกตำรวจรวบตัวแล้ว เพราะว่ามีผู้เสียหายไปร้องเรียนกับตำรวจ ปคบ. และแจ้งความทางออนไลน์ ซึ่งจะจอยื่นประกันตัวเพื่อขอออกมาต่อสู้คดี และทำงานชดใช้หนี้กับทุกคน
15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ.คุมตัว “นารา” มารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำเพิ่มเติม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ซึ่งถูกแจ้งข้อหา 4 ข้อหา คือ โฆษณาหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมาย, ฉ้อโกงประชาชน, ทุจริตหรือหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
ขณะที่ “นารา” เดินทางมาถึงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สื่อมวลชนพยายามสัมภาษณ์ แต่ “นารา” กลับพูดโฆษณาสินค้าของตัวเอง และบอกสั้น ๆ จะหาเงินไปใช้หนี้ และร้องเพลง ….เสียรถด่วนขบวนสุดท้าย…..ก่อนเข้าห้องไปพบพนักงานสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ( บก.ปคบ.) เผยถึงการเข้าควบคุมตัว “นารา เครปกะเทย” ว่า เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ บก.ปคบ.อย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และขออำนาจศาลออกหมายจับ 4 ข้อหา ประกอบด้วย ม.22 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค การโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ผิดตามกฎกระทรวง(5) 2.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ 3.ฉ้อโกงประชาชน 4.ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมประชาชน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
ส่วนกรณี ที่ นารา ไปยื่นหนังสือร้องขอให้ทางกระทรวงยุติธรรมช่วยเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาซึ่งอยู่คนละส่วนกับคดีอาญา
ขณะเดียวกัน นายปองพฤฒ สุทธิภูล ทีมงานทนายของ นารา เผยว่าวันนี้ได้เข้ามาเพื่อให้คำปรึกษาด้านกฏหมาย พร้อมดำเนินเรื่องเพื่อขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องหลักทรัพย์ในการประกันตัวก็ขึ้นอยู่กับ แม่ของนายอนิวัติจะนำอะไรมาเป็นหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกัน
สำหรับข้อหาฉ้อโกงประชาชน ไม่สามารถยอมความได้ก็จริง แต่การยื่นเรื่องขอไกล่เกลี่ยสามารถใช้ประกอบการพิจารณาโทษในชั้นศาล ซึ่งเป็นดุลพินิจของผู้พิพากษา
