(ตอน) ไฟ…ที่ลุกลามจากมือเรา
ภาพปรากฏชัด…มองเห็นจาก การใช้อำนาจรัฐ ในความร่วมมือกัน เพื่อ “ดับ” หรือ “ป้องกันไฟป่า” หยุดไหลลามไปสร้างมลพิษ กับประชาชน
ถ้า…เจ้ากระทรวง ที่รับผิดชอบใช้แผนดับไฟป่า สั่งการร่วมกัน ย่อมเห็นผลทันตา
ตัวอย่าง…ไฟป่าที่เริ่มลุมลามในหลายพื้นที่ภาคเหนือ…เริ่มจากริมทางหลวงแผ่นดิน ถึงยอดดอย
นับเดือนที่ผ่านมา…พี่น้องภาคเหนือ เคยได้เห็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ “วราวุธ ศิลปอาชา” จูงมือปลัดฯ “จตุพร บุรุษพัฒน์” ลงพื้นที่ ดูแลแก้ปัญหา
หาวิธี…ดับไฟป่า กับหน่วยงานรับผิดชอบ และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกัน
มีไหม…??
ใครได้เห็น รัฐมนตรี มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา สั่งการไปยังปลัดฯ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ลงพื้นที่ พร้อมผู้ว่าฯ
ระดมหน่วยดับไฟป่า อาสาฯ บรรเทาสาธารภัย มีเครื่องมือภาคสนามพร้อมทั่วประเทศ
มีไหม??
ใครสั่งการ หรือรับคำสั่ง หรือได้รับความร่วมมือ จากกำลังพลสายมหาดไทย…
ทหาร ตำรวจ พลเรือน อบต.อบจ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ละท่านก็อยู่คนฝั่ง คนละพวกเดียวกัน
ปล่อยให้…ปลัดฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นั่งสั่งการ ในห้องประชุม หัวเดียวกระเทียมลีบ
กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ ก็ทำงานกันแบบ…เงินไม่มา งานไม่เดิน
กำลังพลที่ไม่พอ….เครื่องมือดับไฟป่า ก็แค่ “ไม้ตบไฟ” เดินไล่ตบดับไฟ
เฮลิคอปเตอร์ ที่พอจะขนน้ำทางอากาศมาโปรยใส่กองเพลิง ก็ได้แค่ “ผลงาน” ผ่านตาแต่ละวัน
ครับ…แตกต่างกันกับ ไฟป่าลุกลาม เขาแหลม นครนายก ใกล้จุดพื้นที่ ทหาร และเขาใหญ่ มรดกโลก
ท่านนายกฯ สั่งคำเดียว
รัฐมนตรีฯ ปลัดฯ ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ พร้อมเครื่องมือดับไฟ ทั้งทางบกทางอากาศ หน่วยบรรเทาสาธารภัย
เดินแถวเดินทัพไปรับทราบคำสั่ง…ลงพื้นที่อย่างพร้อมเพรียง
เครื่องบินขนน้ำขึ้นดับไฟ วันละนับร้อยเที่ยว เฮลิคอปเตอร์ กองทัพบก กรมอุทยานฯ บินไปรุมดับไฟกันสุดชีวิต
นี่คือ….บริบทสังคมข้าราชการในการใช้อำนาจรัฐ ที่เลือกปฏิบัติ แม้แต่ในวงราชการด้วยกัน
ประชาชน…ยังมารุมเผาป่าฆ่าตัวตาย ใช้ความคิดแบบ เห็นผิดเป็นชอบ กันอยู่เช่นนี้อีก
แล้วจะเลือกใครมาดับไฟที่ลุกลามจากมือเรา…สำนึกกันบ้างไหมครับ
