กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท .จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.2 บก.ปคบ. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.จำรูญ คำมา สว.กก.2 บก.ปคบ., ร.ต.อ.มนูญ แทงทอง รอง สว.กก.2 บก.ปคบ., ด.ต.สุทธิรักษ์ โคช่วย, ด.ต.สายันต์ วิเชียรเทียบ, ด.ต.สายัณห์ นายะตุปต์, ด.ต.เดชวิชญ์ ศรีละโคตร, ด.ต.อนันต์ ม้านสะอาด, ด.ต.พรเทพ สังขาระ, จ.ส.ต.ต่วนอูเซ็น ต่วนจาหลง
สถานที่ตรวจค้น สถานีบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว บริษัทแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์ เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนฝ่ายกฎหมาย ของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กรณีโรงบรรจุก๊าซมีถังหุงต้มที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นอยู่ในเขตโรงบรรจุก๊าซของตน โดยไม่ได้รับความยินยอม ว่าที่สถานีบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว บริษัทแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยบริษัท OR ได้รับรายงานข้อเท็จจริงว่า โรงบรรจุก๊าซดังกล่าวมีก๊าซหุงต้มที่มีเครื่องหมายการค้าของบริษัท OR ตั้งอยู่ในบริเวณเขตบรรจุก๊าชของตน โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท OR ผู้เป็นเจ้าของถังก๊าซหุงต้ม
และการนำถังก๊าซที่มีเครื่องหมายการค้าของ บริษัท OR ไปบรรจุก๊าซอื่น ยังเป็นการทำให้ผู้บริโภคสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำดังกล่าวยังเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎกระทรวง เรื่อง สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงบรรจุ พ.ศ.2564 ที่ห้ามผู้ค้าน้ำมันหรือตัวแทนค้าต่างมีก๊าซหุงต้มที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นอยู่ในเขตโรงบรรจุก๊าซของตน
จากการสืบสวนทราบว่าโรงบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีการกระทำความผิดตามที่บริษัท OR ได้แจ้งเบาะแสจริง
ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าวได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจค้นโรงบรรจุก๊าซดังกล่าว โดยมี นางปาริตาฯ (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 39 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลสถานที่บรรจุก๊าซดังกล่าว นำตรวจค้น ขณะเข้าทำการตรวจค้นพบ พนักงานของบริษัทดังกล่าว อยู่ระหว่างบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซหุงต้มที่มีเครื่องหมายการค้าของ บริษัท OR และเครื่องหมายการค้าอื่น รวมปริมาณก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ตรวจพบ จำนวน 69,894 กิโลกรัม (139,788 ลิตร)
ซึ่งจากการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐาน “ประกอบกิจการควบคุมที่ 3 ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงฯ ที่ออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542” ตาม มาตรา 7, 66 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542 ประกอบ กฎกระทรวง สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงบรรจุ พ.ศ.2564 ข้อ 6, 19(2)
เจ้าพนักงานตำรวจชุดดังกล่าวจะได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว และผู้กระทำผิดอื่นที่สอบสวนถึงในข้อหาดังกล่าวข้างต้นตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
เตือนภัย การนำถังก๊าซที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นไปบรรจุก๊าซ เป็นการทำให้ผู้บริโภคสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และการมีถังก๊าซ และนำถังหุงต้มที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นมาบรรจุก๊าซ อยู่ในเขตโรงบรรจุก๊าซของตนโดยไม่ได้รับความยินยอม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ. ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2542