วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมรวบแก๊งอ้างเป็นกรมธุรกิจการค้า (DBD) หลอกติดตั้งแอปดูดเงินสูญเกลี้ยงบัญชีกว่า 16 ล้านบาท

Related Posts

รวบแก๊งอ้างเป็นกรมธุรกิจการค้า (DBD) หลอกติดตั้งแอปดูดเงินสูญเกลี้ยงบัญชีกว่า 16 ล้านบาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2566 เวลาประมาณ 13.30 น. มีกลุ่มคนร้ายได้โทรศัพท์หาผู้เสียหายโดยแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานกรมธุรกิจการค้า หรือ DBD โดยหลอกให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ประกอบการติดตั้งแอปพลิเคชั่น อ้างว่าเพื่อเป็นการอัปเดตข้อมูลนิติบุคคลของบริษัทด้วยตนเอง ต่อมาคนร้ายได้ส่งลิงค์มาให้ผู้เสียหายกดและให้ตั้งค่าโทรศัพท์ตามที่คนร้ายบอก เมื่อผู้เสียหายกดเข้าไป ทำให้หน้าจอโทรศัพท์ค้าง จากนั้นมีการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายโดยที่ผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้ทำรายการโอนแต่อย่างใด โดยเงินในบัญชีธนาคารจำนวน 3 บัญชีได้ถูกโอนออกไปโดยใช้เวลาไม่ถึง 40 นาที รวมยอดเงิน 16,034,990 บาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จนกระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 18 ราย

วันที่ 8 พ.ค.66 เวลาประมาณ 12.30 น. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นางสาวปานทิพย์ อายุ 19 ปี ชาวราชบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยควบคุมตัวได้บริเวณพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลบ้านแรต อำเภอบ้านโป่ง จังหวัด ราชบุรี

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กลุ่มคนร้ายโอนเงินของผู้เสียหายเข้ามา ก่อนที่จะโอนไปยังบัญชีธนาคารอื่นต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนเพื่อขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดรายอื่นๆ ต่อไป โดยการรับจ้างเปิดบัญชีเป็นความผิด ตาม พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนยี พ.ศ.2566 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 และ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 สั่งการให้ พ.ต.ท.ยุคนธร ชูแก้ว สว.กก.4 บก.สอท.2, พ.ต.ต.คมคิด บำเพ็ญบุญ สว.กก.4 บก.สอท.2, พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts