วันที่ 11 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ข้อหาทำร้ายร่างกาย พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และดำเนินการสอบปากคำ ก่อนจะทำหนังสือส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อประกอบสำนวน ในคดีนี้ตำรวจจะต้องสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ก่อเหตุ เพื่อส่งให้อัยการยื่นฟ้องศาลต่อไป
นายศรีสุวรรณ จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรองหรือยอมรับคำขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น”
“เหตุการณ์ทำร้ายตนครั้งนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ไม่กระทบต่อการยื่นคำร้องใด มีแต่จะทำให้ร้องเรียนมากยิ่งขึ้น การที่ผู้ก่อนเหตุอ้างว่าเรื่องนี้โทษเล็กน้อย แสดงให้เห็นเจตนา การทำผิดกฎหมายอาญาขึ้นอยู่กับเจตนา ซึ่งอัตราโทษสูง ไม่สามารถลดโทษได้ การทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นโดยมีเจตนาอย่างนี้ ตนเองก็ปริวิตกว่าจะเป็นต้นแบบที่ไม่ดีต่อการใช้สิทธิของประชาชนในการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญที่ให้การรับรองและคุ้มครอง ดังนั้นหากใครไม่พอใจใครอย่างไร ก็จะไปทำอย่างนี้ ซึ่งคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนไม่ใช่มีเพียงแต่ศรีสุวรรณคนเดียว ยังมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีหลากหลาย แต่พฤติการณ์อย่างนี้ไม่ควรที่จะส่งเสริมสนับสนุนหรือให้ท้ายใดๆทั้งสิ้น เราคงรจะตำหนิแล้วใช้มาตรการทางกฎหมาอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป”
“ผมสังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ผมยืนร้อนเรียน หลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก เราเพียงแต่ว่าไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง เคยเห็นหน้าหลายต่อหลายครั้ง นั่นแสดงว่ามีเจตนาที่จะหาโอกาส หาช่องทางในการที่จะมาทำร้ายผม จะหาว่าไม่เจตนาคงไม่ได้”
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า “ขณะนี้พูดยังไม่ค่อยถนัด เพราะปากยังเจ่ออยู่ คงจะกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน”
นายศรีสุวรรณ ต่อไปจะเตรียมเข้มงวดทีม รปภ.มากขึ้น เพราะเพื่อนหลายคนเมื่อทราบข่าวได้โทรศัพท์มาสอบถาม และบอกว่าจะหาทีมงานมาเพิ่มเติมให้ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ที่จะไปร้องเรียนตามสถานที่ต่างๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุนายทศพล ธนานนท์โสภณกุล ผู้ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยนายทศพล ยืนยันพร้อมสู้คดี มองไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เป็นการสั่งสอน ขณะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรื่องพยานหลักฐาน ตอนนี้ยังไม่มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ได้ ต้องนำตัวนายทศพลไปทำใบบันทึกประจำวัน เพื่อนำกลับมาขอคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์ราชการฯ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือลุงศักดิ์ ได้ใช้กำลังทำร้ายด้วยการเตะต่อยนายศรีสุวรรณ เมื่อ 18 ต.ค.65 ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้พิจารณาคดีอาญา อัยการฟ้องแค่ลหุโทษ ได้สั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ส่วนในคดีแพ่ง ที่นายศรีสุวรรณเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ลุงศักดิ์ในฐานะจำเลย เห็นว่าเงินจำนวน 1 ล้านบาทค่อนข้างแพง เกินจริง ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ตกลงกันไม่ได้ ศาลจึงนัดสืบพยานในวันที่ 3 สิงหาคม 2566 อีกครั้ง