กองปราบ จับเครือข่ายปล่อยเงินกู้ เรียกเก็บดอกเบี้ยโหด

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายสิทธิพงษ์ หรือโอ๊ด อายุ 27 ปี ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 (1) จับกุมได้ที่ ถ.กุดยางสามัคคี ต.เมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จว.กาฬสินธุ์

สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนเมษายน พ.ศ.2566 กก.3 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า มีกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ และเรียกอัตราเกินกฎหมายกำหนด โดยนายทุนมักจะมีพฤติการณ์โหดเหี้ยม ข่มขู่ลูกหนี้ และกระทำการโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบจากกรณีดังกล่าวโดยเร็ว

จากการสืบสวนทราบว่า ได้มีผู้เสียหายติดต่อขอกู้ยืมเงินนอกระบบจากบุคคลตามนามบัตรที่ใช้ชื่อว่า “โจนาทาน” เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท โดยได้ทำสัญญาผ่อนชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 400 บาทต่อวัน โดยจะชำระต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน แต่ต่อมาผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงินและมีภาระค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวมากขึ้น จึงไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้นอกระบบได้ เมื่อผู้เสียหายขอเจรจากับผู้กู้ กลับถูกข่มขู่ และเกรงว่าจะได้รับอันตราย ประกอบกับทราบว่าแก๊งปล่อยเงินกู้ ดังกล่าว มีผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายคน ผู้เสียหายจึงมีความประสงค์ที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการช่วยเหลือจากกรณีดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ดำเนินการสืบสวนติดตามแก๊งปล่อยเงินกู้ โดยขณะลงพื้นที่ตรวจสอบ พบผู้ต้องหาตะโกนเรียกชื่อผู้เสียหาย และบอกให้นำเงินกู้เเละดอกเบี้ยมาชำระ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้เข้าตรวจสอบ จากการสอบถามผู้ต้องหา รับว่าตนเองมาเก็บดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบแทนนายโจนาทานจริง โดยได้รับการว่าจ้างมาจาก น.ส.เก๋ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) และนายเบส (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) พักอาศัยอยู่แถวบ้านดอนบม ต.ดอนบม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยทั้งสองให้ตนมาเก็บเงินจากผู้เสียหาย และลูกค้ารายอื่นๆ ซึ่งสำหรับรายละเอียดการเรียกดอกเบี้ย จะคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 บาทต่อ 30 วัน หรือ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ต่อเดือน หรือร้อยละ 240 บาทต่อปี

ซึ่งจากพฤติการณ์ดังกล่าว ถือเป็นการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายสิทธิพงษ์ฯ ทราบ จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป