วันเสาร์, เมษายน 27, 2024
หน้าแรกสืบเศรษฐกิจการเงินโบ๊ะ บ๊ะ จังหวะนรก คนนามสกุลดัง-เด็กในคาถา ใกล้ชิด zipmex ตบเท้าเข้าปะทะไหล่ พิธา ว่อนโซเชียล เตือน! อย่าหวังปิดปากความเสียหาย 2,000...

Related Posts

โบ๊ะ บ๊ะ จังหวะนรก คนนามสกุลดัง-เด็กในคาถา ใกล้ชิด zipmex ตบเท้าเข้าปะทะไหล่ พิธา ว่อนโซเชียล เตือน! อย่าหวังปิดปากความเสียหาย 2,000 ล้าน

“…zipmex กำลังมีปัญหาคืนเงินนักลงทุนไทยไม่ได้ 2,000 ล้านบาท เหยื่อซึ่งเคยเป็นนักลงทุน แจ้งความดำเนินคดีทั้ง ตำรวจ บก.ปอศ. และ สอท.1 บช.สอท. มาแล้วด้วย แต่การที่ผู้บริหาร  zipmex ตบเท้าโอบไหล่ “พิธา” ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กันใหญ่ หลังจากมีแนวโน้มได้ตำแหน่งเก้าอี้นายกฯ  ซึ่งมาในรูปแบบของคนนามสกุลดังออกมาสนับสนุนอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ อาจเพื่อหวังดีบางเรื่องบางราว แต่ก็ขออย่าให้เอี่ยวกับการช่วยเหลือความผิดเกี่ยวกับความเสียหาย 2,000 ล้านก็แล้วกัน ขอเตือนว่าที่ผู้นำรัฐบาลใหม่ อย่าเข้าข้างคนผิด ตกเป็นเครื่องมือ ต้องกลั่นกรองแผนลึกลับ และดีลต่อรองทางคดีความอนาคตด้วยเหมือนกัน…”

ผู้บริหาร  zipmex ตบเท้าโอบไหล่ พิธา ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กันใหญ่ หลังจากมีแนวโน้มได้ตำแหน่งเก้าอี้นายกฯ แม้อาจจะมีอุปสรรคด้านการเจรจากับพรรคร่วมทั้ง 8 อยู่บ้าง แต่จุดยืนและเจตนารมณ์ประชาชนยังค้ำคอพรรคร่วมอยู่ และคนในพรรคร่วมที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองก็ไม่อาจจะทอดทิ้งเจตนารมณ์ประชาชนซึ่งเทเสียงให้พรรคการเมืองฝ่ายเสรีนิยมได้มากถึง 313 เสียง

ความเสียหายที่ zipmex ก่อไว้เมื่อปีกลายนั้น นักลงทุนไทยไม่อาจลืมได้ จนวันนี้ผู้เสียหายยังคงดิ้นรนรวบรวม ส่งต่อข้อมูล และดำเนินคดีในช่องทางต่างๆ รวมถึงร้องเรียนต่อนายกฯ ผู้นำรัฐบาลรักษาการที่ใกล้หมดอำนาจ อย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้เสียหายก็พยายามต่อสู้ทุกทางแล้ว ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ผู้เสียหายย่อมไม่ลืมที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายกฯ คนใหม่ ด้วยความหวังว่า นายกฯ คนใหม่จะมีความชัดเจนในการเยียวยาและคุ้มครองนักลงทุนไทย จากเล่ห์เหลี่ยมทางการเงิน

นอกจากนั้นเหยื่อซึ่งเคยเป็นนักลงทุนใน Zipmex ต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์จนต้องแจ้งความดำเนินคดีด้วยตัวเองซึ่งแจ้งความดำเนินคดีมาแล้วทั้ง ตำรวจ บก.ปอศ. และ สอท.1 บช.สอท. แต่หน่วยงานกำกับดูแลโดยตรงอย่าง  ก.ล.ต. ยังลอยตัวอยู่เหนือปัญหานี้ตลอดมาตั้งแต่เกิดเรื่อง โดยที่ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก เพราะปรากฎการณ์ดีลลับ ร่วมกันรวบหัวรวบหางผู้เสียหายระหว่าง Zipmex และ “V Ventures” เป็นบทสะท้อนการตีหน้า กินรวบ ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดไว้ที่กระเป๋าเงินของผู้เสียหาย 

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายสิบคน เป็นตัวแทนเดินทางเข้าพบร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.พงศธร แก่นพุฒ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ. ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. โดยได้แจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด, นายเอกลาภ ยิ้มวิไล และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยขอให้ช่วยพิจารณาว่าการกระทำของบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด มีพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวงให้ร่วมลงทุนหรือไม่ ทั้งข้อหาฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ, พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ, พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอลฯ, และในความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ซึ่งผู้เสียหาย/ผู้ร้องทุกข์ มีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด และ กรรมการของบริษัทฯ ทุกคนจนถึงที่สุด โดยมีเอกสารประกอบการพิจารณาที่เกี่ยวข้องคือ

1. สำเนาหนังสือรับรองของบริษัทซิปเม็กซ์

2. สำเนาเอกสารประกาศชวนเชื่อต่อประชาชนและรายละเอียดการประกันผลตอบแทนการลงทุน

3. คำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ลงวันที่ 21 ก.ค. 2565

4. สำเนาหนังสือคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เรื่องข้อมูลการบังคับใช้กฎหมายในรอบสามเดือนที่ผ่านมาจำนวนรายการที่พบ 110 รายการ (ส่วนของ Zipmex ลำดับที่ 24 ถึงลำดับที่ 37)

5. รายชื่อผู้เสียหาย/ผู้ร้องทุกข์

ทางกลุ่มผู้เสียหายยังเดินหน้าเรียกร้องให้ ก.ล.ต. ดำเนินคดีกับกรรมการของบริษัทฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ครบถ้วนทุกคน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในช่วงที่รอ เลขาฯ ก.ล.ต. คนใหม่ เนื่องจากในเหตุการณ์นี้ยังไม่มีใครต้องเข้าคุกแม้แต่รายเดียว และยังส่อแววว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เงินเยียวยาหรือเงินลงทุนที่เสียหายไป มีโอกาสได้รับคืนเพียง 10-20% จากมูลค่าที่ลงทุนไปเท่านั้น ขณะที่การคุ้มครองเจ้าหนี้ได้หมดลงไปแล้วนับตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 66 ตามอำนาจศาลสิงคโปร์

ตามรายงานข่าวเดิมจากต่างประเทศ ว่ากองทุน V Ventures ที่เดิมจะเข้ามาถือหุ้นใหญ่ใน Zipmex โดยการใส่เงินลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินลงทุนดังกล่าวจะถูกนำมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับนักลงทุนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  ในเวลานี้กลับต้องการให้ Zipmex จ่ายคืนให้แก่นักลงทุนแต่ละรายเพียง 10-20% ของมูลค่าเงินทุนที่ลงทุนไปเท่านั้น ทั้งที่ผ่านมา Zipmex ยืนยันจะให้เงินคืนเต็มจำนวนตามจดหมายและคำแถลงต่อศาลสิงคโปร์ในแผนการปรับโครงสร้าง

ทางออกของ Zipmex นั้นมีอยู่ และ V Ventures ก็พร้อมจะถูกหวยไปด้วย หากสามารถหารูรั่วทางกฎหมาย  ตัดเงินสินทรัพย์ถึง 90% หรือยอมตัดขาดทุน 100% ไปเลย เพื่อให้ Zipmex รอดจากวิกฤตที่ผ่านมาและเดินหน้าต่อไปได้ ส่วน V Ventures ก็ได้ความเป็นหุ้นส่วนโดยที่ไม่ต้องแบกหนี้กันมากนัก

และคำถามสำคัญ เมื่อเหยื่อซึ่งเคยเป็นนักลงทุนใน Zipmex ต่างเฝ้าติดตามสถานการณ์จนต้องแจ้งความดำเนินคดีด้วยตัวเอง ทั้งการไปร้องนายกรัฐมนตรี  แจ้งความดำเนินคดีมาแล้วทั้ง ตำรวจ บก.ปอศ. และ สอท.1 บช.สอท. มาแล้วด้วย

สิ่งที่ zipmex ส่งสัญญาณอย่างรวดเร็วจากการเข้าหาและยืนข้าง ”ทิม” พิธา ว่าที่ นายกฯ คนใหม่ ซึ่งมาในรูปแบบของคนนามสกุลดังออกมาสนับสนุนอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ อาจเพื่อหวังดีลงานบางเรื่องบางราว แต่ก็ขออย่าให้เอี่ยวกับการช่วยเหลือความผิดเกี่ยวกับความเสียหาย 2,000 ล้านก็แล้วกัน

จะสังเกตว่าที่ปรึกษาของ ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย มีจำนวน 3 คน ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือเกี่ยวข้องกับผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ คือ นายไชยา ยิ้มวิไล บิดาของนายเอกลาภ ยิ้มวิไล และยังดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (ดร.วิษณุ เครืองาม) ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 8/2560, อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และสังกัดวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้อำนวยการ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบันฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม

ส่วนบุคคลที่ 2 คือ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ บิดาของ นางสาวพราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมากมาย อาทิ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ, ประธานกรรมการคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน, ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และประธานกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

ส่วนบุคคลที่ 3 คือ นายวิชญะ เครืองาม บุตรชายของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกทั้งเป็นนักกฎหมายและนักการเมืองผู้คร่ำหวอด ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลหลายชุดและในหลายหน่วยงาน และเป็นราชบัณฑิตสาขาวิชากฎหมายปกครอง ขณะที่ วิชญะ ผู้เป็นบุตรชาย ถือว่าเจริญตามรอยเท้าพ่อ เรียนจบนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อปริญญาโท และเอก ดีกรีด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กเลย์ และเป็นผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงกฎหมาย และรับตำแหน่งสำคัญทั้งในแวดวงราชการและเอกชน

ตามรายชื่อนามสกุล น่าสนใจว่าในตระกูลลิ้มพงศ์พันธุ์ในเวลานี้ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยถึงความชัดเจน เรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ตามตนเคยให้สัมภาษณ์ระบุว่า ขอให้พรรคแกนนำคือ พรรคก้าวไกล ไปรวบรวมเสียง ส.ส.ให้ได้ 376 เสียงเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี 

แต่เมื่อมีความชัดเจนแล้วว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลสามารถรวบรวมเสียง 8 พรรคได้เพียง 313 เสียง ไม่ถึง 376 เสียง ประกอบกับได้รับฟังการแถลงแนวทางรวมถึงการกำหนดนโยบายพอสมควรแล้วถือว่ามีความชัดเจนในระดับหนึ่ง

“ผมจะใช้สิทธิตามหลักประชาธิปไตยที่ผมยึดมั่นมาโดยตลอด ให้การสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลโดยการโหวตให้พรรคที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร “

ความบังเอิญไม่มีในโลก.. ถ้าใครเชื่อเรื่องเหล่านี้

หลักฐานอีกชิ้นที่น่าจะยืนยันได้ว่าการพยายามเข้าหาฝ่ายอำนาจ ของ zipmex ยังมีภาพของ ปานรวี มีทรัพย์ ผู้จัดการนโยบายสาธารณะอาวุโส zipmex เข้ากระทบไหล่กับ พิธา โดยใช้โอกาสเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 จากการเจรจาหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก World Economic Forum เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ของพรรค ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และหารือถึงความเป็นไปได้ของความร่วมมือระหว่างไทยและ World Economic Forum ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นผู้จัดเวทีการประชุมระดับโลกประจำปีอย่าง Davos World Economic Forum

ปานรวี มีทรัพย์ ผู้จัดการนโยบายสาธารณะอาวุโส zipmex

อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ และอาจจะเป็นคนละหัวโขนในการเข้าพบ แต่ทิศทางการปะทะไหล่อำนาจใหม่ เป็นร่องรอยที่มีภาพปรากฎตามลำดับอย่างเหมาะเจาะ

หากได้รัฐบาลใหม่ที่เข้าใจเทคโนโลยี การลงทุน ก็น่าจะเป็นผลดีต่อการเรียกร้องค่าเสียหาย 2,000 ล้านบาท ชดใช้ให้นักลงทุนไทย ขั้นแรกต้องสามารถผ่าดีลลับระหว่าง zipmex และวีเวนเจอร์สได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ภาพการหารือปะทะไหล่ว่าที่นายกฯ และการสนับสนุนของคนสนามสกุลดัง อาจจะเป็นผลดีต่อประชาชนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศก็จริง แต่ขอเตือนว่าที่ผู้นำรัฐบาลใหม่ อย่าเข้าข้างคนผิด ตกเป็นเครื่องมือ ต้องกลั่นกรองแผนลึกลับ และดีลต่อรองทางคดีความอนาคตด้วยเหมือนกัน

ฉุกคิดเสียหน่อยก็ดี ว่า… นี่มันจังหวะนรกเกินไปหรือไม่ โบ๊ะบ๊ะ ปะทะไหล่พิธา ชนิดไม่เกรงใจ ผู้เสียหาย 2,000 ล้านบาทในประเทศไทยเลย

https://youtu.be/YKIhCzhYjgo

#สืบจากข่าว : รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts