เวลา 14.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก. สภ.โคกสูง ได้รับแจ้งจากกำนันตำบลโนนหมากมุ่น ว่ามีชายคุ้มคลั่งยิงปืนทำลายข้าวของ พอได้รับแจ้งจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท. ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ รอง ผกก.ป.สภ. โคกสูง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชินวงศ์ แท่นดี สวป.สภ.โคกสูง นำกำลังตำรวจของ สภ.โคกสูง ได้ประสาน ร.ต.อ.บุญเลิศ เรืองหิรัญ หัวหน้าชุดสวาทของภูธรจังหวัดสระแก้วนำกำลังตำรวจรุดที่เกิดเหตุบ้านที่ 289 หมู่ 1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นร้านขายของชำในกลางหมู่บ้านผู้ก่อเหตุปิดประตูขังตัวเองอยู่บ้าน ตำรวจได้กระจายกำลังปิดล้อมเอาไว้ก่อนเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน และให้ญาติและแฟน เจรจาอยู่เกือบ 1 ชม.ผู้ก่อเหตุจึงยอมมอบตัว ทราบชื่อ ภายหลัง นายสุทธิพงษ์ พิจารณ์ อายุ 33 ปี อส.ทพ.นย. พร้อมของกลางปืนพกขนาด 9 มม.ได้ ยิงออกไปแล้วจำนวน 2 นัด ตำรวจได้นำตัวไปสงบสติที่ สภ.โคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อสอบปากคำผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ด้าน นางชุติการ คำภา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 1 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง เป็นพี่สาวเมีย ของผู้ก่อเหตุเล่าว่าน่าจะเกิดความเครียดประกอบดื่มสุราเข้าไปด้วยจึงได้เกิดมีปากเสียงกับภรรยา ซึ่งภรรยากลัวจึงได้หลบหนีจากบ้านไป จากนั้นได้โวยวายเรียกให้ตนเข้าไปหาผู้ก่อเหตุถามเชื้อใจผมไหมจากนั้นได้ชักปืนออกมา เมื่อตนเห็นเช่นนั้นจึงได้จับมือ ผู้ก่อเหตุกดลงปืนจึงได้ลั่นขึ้น 2 นัด ตนตกใจจึงรีบหนีออกจากที่เกิดเหตุทันที ” จากนั้นผู้ก่อเหตุปิดประตูบ้านขังตัวเอง อยู่ภายในบ้าน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไปที่สภ.โคกสูง
ด้านร.ต.อ.บุญเลิศ เรืองหิรัญ หัวหน้าชุดสวาทของภูธรจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า หน่วยปฏิบัติการชุดสวาทได้รับการประสานมาจาก สภ.โคกสูง จึงได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ ตำรวจจำนวน 20 นาย เพื่อระงับเหตุ พอมาถึงที่เกิดเหตุผู้เหตุยังขังเองอยู่ภายในบ้านจึงได้นำกำลังปิดล้อมที่เกิดเหตุไว้ก่อนเพื่อเจรจาแต่ไม่เป็นผลจึงให้เพื่อนบ้านที่สนิทกันมาช่วยเจรจาเกือบ1 ชม.จึงยอมออกมามอบตัว
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐพล ชนะศุภกาญจน์ รอง ผกก.ป.สภ.โคกสูง กล่าวว่า ได้สอบปากคำ นายสุทธิพงษ์ พิจารณ์ อายุ 33 ปี ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุเนื่องจากมีปากเสียงกับภรรยาตนเองบันดาลโทสะจึงได้ยิงปืนระบายอารมณ์ เนื่องจากตนมาอาศัยภรรยาอยู่ไม่มีญาติแถวนี้ตนเป็นคนจังหวัดยโสธรมาเป็น อส.ทพ.นย.ที่จังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุยิงปืนในที่สาธารณะและพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะไม่มีเหตุอันควรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
