ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ Stop Cyber Corruptionsมูลค่าความเสียหาย กว่า 80 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป., บก.ป., บก.ปอท., บก.ทล. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการ ป.ป.ท.โดย พ.ต.ท.ศิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 ป.ป.ท. นายสุภาพ ศิริ ผอ.ป.ป.ท.เขต 6, น.ส.ณฐพร สิทธิชัย ผอ. ป.ป.ท.เขต 3, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช., นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. โดย ว่าที่ ร.ต.คฑาวุธ คลังนุช ผอ.ป.ป.ช. จ.สระบุรี, นายยุทธพงศ์ ทรวงแสวง ผอ.ป.ป.ช.จ.ชัยภูมิ, นายวิฑูรย์ วรโชติพงษ์พันธ์ ผอ.ป.ป.ช.จ.นครปฐม, นายจักรินทร์ ชุมจินดา ผอ.ป.ป.ช. จ.นครศรีธรรมราช, น.ส.อภินัทธ์ พัฒนากรศิตานนท์ ผอ.ป.ป.ช.จ.ศรีสะเกษ และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยบก.ปปป..บก.ป.,บก.ปอท.บก.ทล. ร่วมกับ ป.ป.ช., ป.ป.ท , ป.ป.ง. และ เจ้าพนักงานธนาคารกรุงไทย
ร่วมปฏิบัติการ “Stop Cyber Corruptions” ทั่วประเทศรวม 5 จุด ในความผิดฐาน “เป็นเจ้า พนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติใน การเบิกจ่ายเงิน ของฝ่ายการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ KTB Corporate Online ต้องสงสัยหลายรายการ จึงได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิก ถอนเงินงบประมาณ ได้ทำการยักยอกเงินงบประมาณของหลวงไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยใช้อำนาจหน้าที่ ที่สามารถเข้าถึงรหัสการเบิกถอนเงินออกจากธนาคาร ทั้งในส่วนรหัสการเบิกถอนของเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการและรหัสเบิกถอนของเจ้าหน้าที่อนุมัติเบิกจ่าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับ ประชาชนในพื้นที่
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ช., ป.ป.ท., ป.ป.ง.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชีชำนาญการ เทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ที่ได้ยักยอก เงินจำนวน 215 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 15,867,275.49 บาท และได้ดำเนินคดีกับผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี องค์การบริหารส่วนตำบลวังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ที่ได้ทำการยักยอกเงินจำนวน 132 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 44,385,950 บาท ไปแล้วนั้น ในครั้งนี้ จึงได้ยกระดับในการทำงาน เปิดปฏิบัติการ Stop Cyber Corruptions ขึ้นใน 5 จังหวัดเพื่อตัดวงจรการโกงเงินหลวงไปใช้ส่วนตัวโดยผิดกฎหมาย ดังนี้
- องค์การบริหารส่วนตำบลนิลเพชร อ.บางเลน จ.นครปฐม ผู้กระทำความผิด นางสาวนฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการยักยอกเงิน จำนวน 23 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 8,350,000 บาท ซึ่งเป็นเงินงบประมาณของหน่วยงานไปใช้
ส่วนตัว - องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหัวโพ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ผู้กระทำความผิด น.ส.บัวสวรรค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการยักยอกเงินจำนวน 84 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 4,977,412.28 บาท ซึ่งเป็นเงินงบประมาณของหน่วยงานไปใช้
ส่วนตัวและการพนัน - องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยายจิ๋ว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ผู้กระทำความผิด น.ส.ณัฐชยา
(สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ช่วยนักพัฒนาชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการยักยอกเงิน จำนวน 60 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 5,860,494.08 บาท ซึ่งเป็นเงิน
งบประมาณของหน่วยงานไปใช้ส่วนตัว - องค์การบริหารส่วนตำบลโคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ผู้กระทำความผิด น.ส.ปนัดดา
(สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นักวิชาการเงินและบัญชี ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการยักยอกเงิน จำนวน 8 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหาย 548,420 บาท ซึ่งเป็นเงินงบประมาณของหน่วยงานไปใช้ส่วนตัว - องค์การบริหารส่วนตำบลนาเขลียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ผู้กระทำความผิด นายยุทธนา
(สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ผู้อำนวยการกองคลัง ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการยักยอกเงินจำนวน 59 ครั้ง มูลความเสียหาย 4,07 7,951.73 บาท ซึ่งเป็นเงินงบประมาณของหน่วยงานไปใช้ส่วนตัว โดยใช้การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยของ น.ส.วิภาภรณ์ฯ (ภรรยา) ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.เบญจวรรณฯ
ผู้ต้องหา 3 ในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดกับผู้ทุจริตคอรัปชั่นทุกประเภทหากประชาชนมีเบาะแสข้อมูลการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปราม
การทุจริตและประพฤติมิชอบ ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ หรือเพจเฟซบุ๊ก “กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ บก.ปปป.”