รายงานข่าวเมื่อวันอังคาร (20 มิ.ย.) หลังจาก แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับ สี จิ้นผิง ในกรุงปักกิ่ง เห็นพ้องต้องกันในการรักษาสายสัมพันธ์การติดต่อสื่อสาร พูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ โดยเฉพาะประเด็นไต้หวันซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุดและเสี่ยงที่สุด ซึ่งปักกิ่งไม่มีวันประนีประนอมในประเด็นของเกาะแห่งนี้ และไม่มีที่ว่างสำหรับการอ่อนข้อให้กับสหรัฐไม่ว่ากรณีใดๆ
“จีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐ และไม่ได้แสวงหาการท้าทายหรือแทนที่สหรัฐ ทำนองเดียวกัน สหรัฐ จำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน ทั้งสองฝ่ายไม่ควรมุ่งกดดันอีกฝ่ายตามความประสงค์ของตัวเอง หรือลิดรอนสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของอีกฝ่าย” สี จิ้นผิง กล่าวและว่า “ด้วยเหตุนี้ โลกจึงหวังเห็นความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่แข็งแรงและมั่นคงมาโดยตลอด โดยเชื่อว่าประเทศขนาดใหญ่ทั้งสองสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ แสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และสร้างความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ด้วยท่าทีที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง รวมถึงการทำงานในทิศทางเดียวกัน”
แม้การเจรจากันจะมีนิมิตหมายที่ดี แต่ในวันพุธ 21 มิ.ย. หลังวเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนปักกิ่งของบลิงเคน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติผ่านแผนการริเริ่มทางการค้าอเมริกา-ไต้หวันแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งมุ่งอำนวยความสะดวกด้านการตรวจตราทางศุลกากร ปรับปรุงกระบวนการเกี่ยวกับกฎระเบียบ และกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริต และได้ส่งต่อข้อตกลงนี้เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาซึ่งคาดว่า จะให้การรับรองเช่นเดียวกัน
ต่อมาในวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) อเมริกาแถลงว่าได้จัดส่งเรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันอังคาร (20) หลัง “รัฐมนตรีต่างประเทศบลิงเคน” เสร็จสิ้นการเยือนปักกิ่ง กองเรือที่ 7 แห่งกองทัพเรือสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ (22) ว่า เรือตรวจการณ์ประเภทคัตเตอร์ของหน่วยยามฝั่ง ที่มีชื่อว่า “สแตรทตัน” ได้แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันอังคารเพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นของอเมริกาที่มีต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง และสำทับว่าเครื่องบินและเรือของกองทัพอเมริกันสามารถปฏิบัติการในทุกที่ที่กฎหมายสากลอนุญาต
ทว่า โฆษกหน่วยยามฝั่งจีนระบุว่า ภารกิจของเรือสแตรทตันคือการ “โฆษณาชวนเชื่อ” และฝ่ายตนส่งเรือประกบเรือลำนี้ตลอดเส้นทาง และย้ำว่าจีนจะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง รวมถึงสิทธิ์และผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศอย่างเด็ดขาด
กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเรียกร้องให้นักการทูตสหรัฐทั้งหลาย ทุกๆ คน กระทำตามคำมั่นสัญญาของ บลิงเคน ที่ว่า วอชิงตันจะไม่เรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ต้องเลือกข้างว่าจะอยู่กับสหรัฐ หรือจะอยู่ข้างจีน “เราคาดหวังว่าคณะทูตานุทูตของสหรัฐตลอดทั่วโลกจะปฏิบัติต่อพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ประเทศอื่นๆ มีอยู่กับจีน ด้วยท่าทีที่เปิดเผยและมุ่งให้ฝ่ายต่างๆ มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ยุติการกำราบปราบปรามบริษัทจีน ยุติการหลอกล่อประเทศอื่นๆ ให้ยกเลิกความร่วมมือที่พวกเขามีอยู่กับจีน และยุติการแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ เป็นต้นว่า เรื่องกับดักหนี้สินของจีน” หวัง เหวิน ปิน หนึ่งในโฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในระหว่างการแถลงสรุปข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ก่อนการเดินทางเยือนของบลิงเคน“เราใส่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่สหรัฐพูด แต่เราใส่ใจยิ่งกว่านั้นเสียอีกเกี่ยวกับสิ่งที่สหรัฐทำ” เขากล่าว