ตอน “ตาอยู่”จะได้เป็นใหญ่
อีกไม่กี่อึดใจ…คงรู้แล้วละ จุดเริ่มต้น การเมืองในสภาฯเปิดฉากแรก พวกแม่ยกพ่อยก คงได้เห็นชัดขึ้น!
“ตาอิน” กับ “ตานา” แย่งชิงหัวปลากันกิน “ตาอยู่” ได้ช่องจึงแอบมากินพุงปลาจนพุงปลิ้น!!
เป็นสัญญาณบ่งบอก…ว่าพวกแย่งหัวปลากันกิน กำลังตกที่นั่ง “เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง ยังเอากระดูกมาแควนคอ”เข้าอีก
คนยุคหัวนอก…ตัวเป็นไทย ใจเป็นทาสฝรั่ง คงไม่เคยได้ “นิทานอิสป” ที่เด็กไทยสมัยพ่อสมัยแม่มัน เรียนตามโรงเรียนวัด จดจำนำมาแปลให้รู้ว่า…
หัวปลาที่แย่งกลืนกินไปนั้น มีแต่ก้างปลา…ติดคอทั้งคู่
ใครโง่ ใครฉลาด กว่ากัน…ลองคิดดู
เสียงหัวเราะของคนหัวหงอกหัวดำ พอฟังสำเนียงออก…เขายิ้มที่มุมปากพอให้รู้ว่า มีความทุกข์เบาลงบ้างแล้ว ที่การเมืองสะท้อนความคิดกระจ่างขึ้น
ช่วยชะลอความบ้าคลั่งของ พวกลูกหลานหน้าไทย แต่ใจไม่มีรากเง้า “ต้นตระกูลไทย” ของเขา ได้มองข้ามหัวคนชนชาติเดียวกัน
มาบัดนี้เริ่มสำนึกผิดบ้างแล้ว…
คิดอย่างมีเหตุมีผล…ที่พอจะร่วมเดินไปข้างหน้า ด้วยแรงใจแห่งความรู้สึกเดียวกัน
ครับ…บนแผ่นดินชนชาติไทย ที่อยู่อาศัยกันมาหลายเผ่าพันธุ์…ไม่มีใครเคยคิดแยกแผ่นดิน!!
เพื่อคืนให้ชนเผ่าต่างๆปกครองตนเอง
แยกเหนือ แยกใต้ แยกอีสาน แยกตะวันออก แยกตะวันตะวันตก
ถ้าพวกเขาได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน…ยุคต่อไป
พ่อแม่พี่น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย คนแก่คนเฒ่า…คลุกคลานบนแผ่นนี้มานาน พอได้รู้เส้นทางของพวกนักการเมือง หัวสูง คิดต่ำ เช่นนั้น
ต่างสวดมนต์ ขอสิ่งศักดิ์สิทธ์ เทวดา ฟ้าดิน จงร่วมกันปิดทางเดินของลูกหลานเขา ให้หยุดคิดหยุดทำ หยุดก่อกรรมทำชั่วต่อไป
สายตาพร่าพรางของเขาเหล่านั้น เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่กำลังส่องทางมาให้เดินต่อไปมากขึ้นแล้ว
ทุกคนเข้าใจ...ประชาชนเลือกตัวแทนของเขา เข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อเลือกตัวแทนมาเป็นประธานสภาฯ และเดินหน้าเลือก “นายกฯ” ต่อไป
ใครได้เสียงข้างมาก…ก็ได้จากการเลือกตั้งของผู้ แทนฯตัวแทนของประชาชนนั่นเอง
จะมามาอ้างสิทธิ์จากเสียงของประชาชน ที่เลือกพวกเขาเป็นเสียงสวรค์จัดตั้งนายกฯ และประธานสภาฯ…ใช่หรือ???
ถ้าคิดเช่นนั้น…คิดจะเปลี่ยนการปกครองไปสู่ยุค สมัย พ.ต.เสวก นิรันดรชัย หรือ “ขุนนิรันดรชัย” คณะราษฎร ที่ก่อการเปลี่ยนการปกครอง เมื่อ พ.ศ.2475
ได้ก่อการมิบังควร…และกรรมตกถึงชั่วลูกชั่วหลานมาจนถึงยุคนี้ยังปลดกรรมไม่สิ้น!!
จะเอาแบบนั้นอีกหรือครับ!!
คิดการชั่วกันจริงเมื่อใด เราจะเอา “ตาอยู่” มาปราบให้สิ้นซากต่อไป