เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 4 ก.ค. ที่ ชั้น 7 อาคารพิทักษ์สันติ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กลุ่มผู้เสียหายกว่า 50 คนที่ได้รับผลกระทบจากหุ้นกู้ สตาร์ค เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.โดยมี พ.ต.อ.ธีรภาพ ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ.เป็นตัวแทนรับเรื่องไว้ตรวจสอบเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชา
โดยกลุ่มผู้เสียหายได้นำหลักฐานสำเนา FACTSHEET ชี้ชวนลงทุน ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ,สำเนาใบหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ออกโดย บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), สำเนาหนังสือ ที่ STARK 030/2566 ลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2566, สำเนาหนังสือรับรอง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566, สำเนาหนังสือรับรอง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ถึง วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2566), ข่าวหุ้น วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เรื่อง ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีต CFO ของ STARKแฉ บริษัท แต่งบัญชีก่อนเข้าตลาด หวัง กำไร ราคาหุ้น
นายนิว (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่าเราคือกลุ่มผู้เสียหายจากหุ้นกู้สตาร์ท จำนวนหนึ่งจากที่มีทั้งหมดกว่า 4,500ราย วงเงินความเสียหายกว่า 9,000 ล้านบาท บริษัทสตาร์ทคอร์ปเปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสายไฟ สายเคเบิ้ล ที่ได้ออกหุ้นกู้ โดยทำงบบัญชีปลอมซึ่งเรามาพบเจอทีหลังและเอาเงินจากพวกเราไปซื้อบริษัทที่เยอรมัน
เมื่อรวบรวมทุนจากหุ้นกู้ ได้กว่า 10,000 ล้านบาทก็ล้มทั้งยืน ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ.) โดยรองประธานบริษัทของสตาร์ค แจ้งว่าบริษัทของเขาได้รับความเสียหายเกิดจากการทุจริตในบริษัท
แต่เรามาวันนี้เพื่อต้องการแจ้งความเอาผิดต่อผู้บริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ของบริษัทสตาร์ค ฯ โดยมีหลักฐานตามที่นายศรัทธา อดีดประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท สตาร์คฯ ให้สัมภาษณ์สื่อฯยอมรับเรื่องการตกแต่งบัญชีปลอมด้วยเหตุผลสร้างราคาหุ้นเพื่อให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ได้มีการสร้างข่าวในองค์กรว่ามีการไปติดต่อรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งที่เรียกว่า”ปลาวาฬ” เพื่อจะเอาไปตกปลาวาฬตัวใหญ่ นั่นก็คือบริษัท ปตท. ซึ่งทีแรกก็จะซื้อสตาร์ค แต่ไหวตัวทัน ไม่ได้ซื้อ ทำให้สตาร์คต้องหาเงินเอง เนื่องจากการลงทุนที่เวียดนามเกิดปัญหา ซื้อโรงงานผลิตไฟฟ้าที่นั่นมีราคาสูงเกิน ทำให้ธุรกิจไม่ดี จำเป็นต้องหาเงินมาหมุนเพื่อให้บริษัทสตาร์ค เดินไปต่อได้ จึงมีการตกแต่งบัญชีปลอมตั้งแต่ปี 2563 ได้กำไรจากราคาหุ้นก็ไปหลอกธนาคาร 2 แหง่ายกสิกรไทย และไทยพาณิชย์
จากนั้นก็มาออกหุ้นกู้ หลอกผู้ถือหุ้น 5 รุ่น มูลค่ากว่า 9.2 พันล้านบาท ผู้เสียหายที่มาแจ้งความ ปอศ.วันนี้อยู่ในกลุ่มเจ้าหนี้
เบื้องต้น ผกก.3 บก.ปอศ.ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป