กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์,พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.4
บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นายธนกฤตฯ อายุ 64ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1432/2565 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2565
ฐานความผิด “ร่วมกันปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกระษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ”
สถานที่จับกุม บริเวณถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายต้องการเงินทุนมาปรับปรุงธุรกิจเกสเฮ้าส์ของตนพอดี จึงได้หาแหล่งเงินทุน จนได้มารู้จักกับน.ส.หงส์หยกฯ ที่อ้างว่ารู้จักกับกลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่มีกำลังเงินมาลงทุนกับผู้เสียหายได้ จึงได้พูดหว่านล้อมชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อกิจการโรงแรมที่พัทยา มูลค่าประมาณ 510 ล้านบาท
ต่อมา ได้มีการนัดทำสัญญาและชำระค่าดำเนินการ เพื่อให้ได้พันธบัตรรัฐบาล มูลค่า
600 ล้านบาท จากกลุ่มนายทุน โดยนัดหมายที่โรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ มีผู้เสียหาย,นายธนกฤตฯ, น.ส.หงส์หยกฯ และนายสันตินันท์ฯ เพื่อร่วมลงนามในสัญญา โดยคิดค่าดำเนินการดังกล่าว
เป็นเงิน จำนวน 1,000,000 บาท ในงวดแรก ผู้เสียหายได้สั่งจ่าย เป็นแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน 700,000 บาท ยื่นโดยตรงให้กับนายสันตินันท์ฯ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 600 ล้านบาท และงวดที่ 2 ผู้เสียหาย โอนจ่ายเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชีนายสันตินันท์ฯ เป็นเงินจำนวน 140,000 บาท โดยนายสันตินันท์ฯ แจ้งกับผู้เสียหายว่าจะนำพันธบัตรรัฐบาลของตน ไปแลกเป็นเงินสด มาให้ผู้เสียหายเพื่อนำไปลงทุนตามสัญญา
ต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม 2562 กลุ่มนายทุนไม่สามารถแสดงเอกสารพันธบัตรรัฐบาลที่ชัดเจนให้แก่ผู้เสียหาย และเจ้าของโรงแรมที่จะขายกิจการได้ ผู้เสียหายจึงได้นำข้อมูลพันธบัตรที่นายสันตินันท์ฯ อ้างไปตรวจสอบกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งเพียงว่า มีนายสันตินันท์ฯ ถือพันธบัตรฯ ดังกล่าวจริง แต่หากไม่ใช่เจ้าของไม่สามารถให้ข้อมูลจำนวนเงินได้ หลังจากนั้นทาง นายสันตินันท์ฯ ได้ผัดผ่อนการเจรจาเรื่อยมา
ต่อมาผู้เสียหายได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ว่ามีบุคคลจำนวนมากสอบถาม
ลักษณะเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่าพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวเป็นของปลอม จึงเชื่อได้ว่า ตนถูก หลอกลวงและเสียเงินไปจำนวน 840,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ กลุ่มผู้ต้องหาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงมีลักษณะการร่วมกันเป็นขบวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเงินตราพันธบัตรรัฐบาลเพื่อใช้หลอกลวงผู้เสียหายและประชาชนซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเงินตราและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ผู้ต้องหาทั้งหมดหลบหนี ซึ่งศาลอาญาอนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 4 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหามาโดยตลอดได้แก่ นายสันตินันท์ฯ จับกุมเมื่อวันที่ 15 ก.ค.64 ,น.ส.หงส์หยกฯ จับกุมเมื่อวันที่ 26 ต.ค.64 ,น.ส.ณพัทฐ์ฯ จับกุมเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 และ ล่าสุดเมื่อวันนี้ ( 18 ก.ค.66) สามารถจับกุมนายธนกฤตฯ ผู้ต้องหารายสุดท้ายในคดีนี้ได้จน
ครบขบวนการ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. โทร.082-4516966