ตอน “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร”
วันนี้…”วาทกรรม” ที่มีความหมายงดงาม…หมายถึง รูปแบบของความคิด หรือกรอบคิดเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง…แสดงออกผ่านทางการพูดและเขียนอย่างจริงจัง…
เปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว
ยุคสมัยใหม่นี้…ดูเหมือนในบางประโยค นำมาเผยแพร่เป็นภาษาเขียนไม่เหมาะสม
เป็นวาทกรรมทางการเมือง…หยาบคาย,ขึ้นต้น สารพัดสัตว์..ลงท้ายด้วยมึงๆกูๆ
ที่ว่า…มีความงดงามอยู่บ้าง ก็เป็นภาษาคุ้นๆทีเคยนำมาใช้…เช่น
“การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” ใช้กันมาเก่าก่อน และความหมายชัดเจน
แต่ที่เพิ่งได้ยินวาทกรรมใหม่ๆ ออกจากปากนักการเมืองยุคใหม่..จะตีความว่าเป็นภาษาที่ เข้ากับยุคสมัย ก็ลองพิจารณาดูเอง
“ด้านไว้ก่อนพ่อสอนไว้”
“นักการเมืองทะเลาะกัน เพราะไม่ลงตัว”
“ผลประโยชน์เข้าตัว ชั่วก็ว่าดี”
“ผลประโยชน์ไม่มี ดีก็ว่าชั่ว”
“ขัดผลประโยชน์ดูซิ ไม่มีดี มีแต่ชั่ว”
“ผลประโยชน์เข้าตัว ชั่วทันที”
“โกงเท่านั้นถึงจะรอด”
“ต้องรักษาสัจจะ รวยเท่านั้นจะครองโลก”ฯลฯ
ก็คุ้นๆกันอยู่…ในวงธุรกิจการเมืองทั้งสิ้น,ประชาชนคนอย่างเรา ไม่บังอาจคิดตามทำได้
ครับ…พรรคการเมือง 2 พรรคเสียงข้างมากที่ได้เสนอตัวจัดตั้งรัฐบาล ยังมีอาการกระวนกระวาย กระหายอำนาจ ที่จับต้องได้ แต่ยังเอามาครอบครองเป็นเจ้าของร่วมกัน…ไม่ได้
เพราะยังไม่ได้รับสัญญาณจาก “นายทุน” อยู่เบื้องหลังสั่งให้ถอด “คลุมถุงชน” ออกจากกัน…
กับ…”ข้าวต้มมัด” ที่รัดกันอย่างเหนียวแน่น!!
ห้ามแยกออก…จนกว่าถึง “ขั้นตอนสุดท้าย” ที่จำเป็นต้องทิ้งอีกฝ่ายให้ได้ก่อน
แต่ขอให้เชื่อไว้ก่อน “ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” มีทางถอยอย่างเป็นรูปธรรม..รออยู่ข้างหน้า
ตาอิน กับ ตานา ก็อย่าเพิ่งหมดแรง…ได้แบ่งกันกินทั่วหน้าแน่นอน!!
ท่องจำให้ขึ้นใจ… “ไม่มีสัจจะในหมู่โจร” ไว้ก่อน