อนุทินยันไม่ได้มีสัญญาใจ”ไปไหนไปด้วย” กับพรรค 2 ลุงชี้ “เศรษฐา-พท.” ต้องชี้แจงเองปมคลิปหาเสียงแก้ 112 เช่นเดียวกับก้าวไกลไม่อยากให้สื่อจี้มากนักเพราะตอนหาเสียงสถานการณ์มันพาไป

“…นายอนุทิน ยันจุดยืนต้องไม่แตะต้อง ไม่แก้ไขมาตรา 112 ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ ส่วนเรื่องของพรรคอื่นไปยุ่งหรือไปก้าวล่วงอะไรไม่ได้ ส่วนปมมีการเผยแพร่คลิปที่นายเศรษฐา เคยระบุตอนหาเสียงว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ออกมาเช่นกัน นายอนุทิน กล่าวว่า คงต้องฟังนายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ชี้แจง สิ่งนี้ตนไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวไปจี้ไปไชอะไรมากนัก เพราะเวลาหาเสียง บางทีการพูดอะไรก็เป็นไปตามสถานการณ์ในห้วงเวลานั้นๆ ส่วนกรณีถ้าไม่มี รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ ก็จะฝ่าด่าน สว.ได้ยากนั้น คงต้องให้พรรคแกนนำไปเคลียร์และไปทำความเข้าใจ ซึ่ง สว.บอกมาเหมือนกันว่า คราวที่แล้วที่ สว.ไม่สามารถโหวตให้ได้เพราะอะไร รวมถึงเหตุผลที่เป็นกังวลของ สว.ได้ถูกแก้ไขแล้ว ดังนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร…”

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประธานรัฐสภาเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปก่อน เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญประเด็นการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำ ว่า ทางประธานรัฐสภาคงอยากให้ทุกอย่างมีความชัดเจนจะได้ไม่ต้องมีปัญหาในภายภาคหน้า จึงสั่งการให้มีการเลื่อนญัตติการเลือกนายกฯไปก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนจะมีการเลื่อนโหวตนายกฯ ทางภูมิใจไทย ถูกทาบทามร่วมรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีการนัดพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้ทราบว่าจะคุยแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร แต่เมื่อมีการเลื่อนโหวตนายกฯ ที่นัดเอาไว้บ่ายวันนี้จึงมีการยกเลิกนัดแล้วเลื่อนออกไปก่อน โดยทางพรรคเพื่อไทย ได้โทรศัพท์ประสานงานเพื่อแจ้งว่าที่นัดกันไว้นั้นขอเลื่อนออกไปก่อน

ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าการโหวตนายกฯ จะเกิดความไม่ราบรื่นอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนอยากให้มีความชัดเจน พอมีการยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องต่างๆ เพื่อความชัดเจน เขาจึงอยากให้มีการชี้ขาดออกมาเสียก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าถือว่าดีหรือไม่ เพราะจะได้เปิดโอกาสให้เพื่อไทย มีเวลาในการเจรจากับพรรคต่างๆ นายอนุทิน กล่าวว่า จะถือว่าดีไม่ได้ เพราะรัฐบาลใหม่ควรจะได้รับการจัดตั้งโดยเร็ว เลือกตั้งมาจะครบ 3 เดือนอยู่แล้ว และรัฐบาลรักษาการก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีอำนาจเต็ม ดังนั้น จึงอยากให้มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เข้ามาทำงานให้เร็วที่สุด

เมื่อถามว่า ทางภูมิใจไทย ยังมีคำถามและสงสัยอะไรในตัว นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อยู่หรือไม่ เพราะทางนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉข้อมูลเรื่องต่างๆ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้แจ้งพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไปแล้วว่าเรามีแนวทางอย่างไร เป็นไปตามที่พรรคภูมิใจไทย มีแถลงการณ์ไปแล้วคือ ต้องไม่แตะต้อง ไม่แก้ไขมาตรา 112 ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล (กก.) ได้ ส่วนเรื่องของพรรคอื่น เราไปยุ่งหรือไปก้าวล่วงอะไรไม่ได้ มีกรอบอยู่แค่นี้ ถ้าเขายังอยู่ในกรอบก็ต้องเป็นเรื่องของพรรคใครพรรคมัน

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปที่นายเศรษฐา เคยระบุตอนหาเสียงว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ออกมาเช่นกัน นายอนุทิน กล่าวว่า คงต้องฟังนายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทย ชี้แจง สิ่งนี้ตนไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวไปจี้ไปไชอะไรมากนัก เพราะเวลาหาเสียง บางทีการพูดอะไรก็เป็นไปตามสถานการณ์ในห้วงเวลานั้นๆ

ถามว่า ภูมิใจไทย มีเงื่อนไขหรือไม่ว่า ก่อนจะตกลงเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้นๆ จะต้องมีหลักประกันว่าได้เสียงถึง 375 เสียง นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นหลักประกันไม่ได้ ใครจะมาประกันได้ ทุกคนต้องช่วยๆ กัน

หากการร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย โดยไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทางภูมิใจไทยยอมรับได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ข้อจำกัดมีแค่ในแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทย เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเราจะต้องไม่ไปก้าวก่ายพรรคแกนนำ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่มีสัญญาใจกับพรรค 2 ลุงใช่หรือไม่ว่า ถ้าจะไปไหน ต้องไปด้วยกัน นายอนุทิน กล่าวว่า การแพ็กกับขั้วเดิมตอนนี้มันเป็นเสียงข้างน้อย ซึ่งภูมิใจไทย บอกแล้วว่าเราไม่จัดรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะอยากให้รัฐบาลมีความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลที่มีความมั่นคงคือ รัฐบาลเสียงข้างมาก เมื่อถามอีกว่า ถ้าจะไปคือ ไปทั้ง 3 พรรค ทั้ง ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างนั้นคงไม่ได้ แต่ละพรรคต้องมีแนวทางของตัวเอง จูงมือกันไปก็คงไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นว่าพรรคใหญ่ๆ มีใครเขาทำกัน

เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่า ถ้าไม่มี รวมไทยสร้างชาติ และ พลังประชารัฐ ก็จะฝ่าด่าน สว.ได้ยาก นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคที่เป็นแกนนำที่จะต้องไปเคลียร์ และไปทำความเข้าใจ ซึ่ง สว.บอกมาเหมือนกันว่า คราวที่แล้วที่ สว.ไม่สามารถโหวตให้ได้เพราะอะไร รวมถึงเหตุผลที่เป็นกังวลของ สว.ได้ถูกแก้ไขแล้ว ดังนั้น ก็ต้องเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ถามว่าในฐานะที่ ภูมิใจไทย เป็นพรรคอันดับ 3 หากเกิดปัญหาขึ้นจริง พร้อมหรือไม่ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวปนหัวเราะว่า อย่าให้มีปัญหาดีกว่า เราเป็นพรรคอันดับ 3 ถ้าเราสนับสนุนให้มีรัฐบาลโดยเร็วได้โดยไม่ขัดกับแนวทางหรือนโยบายของพรรคภูมิใจไทย เราก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะประเทศต้องมีรัฐบาล