วัชระ เพชรทอง อภิปรายแหลกกลางสภากว่า 2 ชั่วโมง หลังจากพบว่าสภาฯ ของบประมาณซื้อนาฬิกา 200 เรือน เรือนละ 7.5 หมื่นบาท ด้าน ประธานสภาฯ บอก ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
วันที่ 14 สิงหาคม 2556 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เกี่ยวกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2557 วงเงิน 2.525 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดงบประมาณลงจากเดิม 31,899 ล้านบาท โดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายเป็นคนแรกว่า อยากให้ปรับลดงบประมาณลงอีกร้อยละ 0.1 เนื่องจากเห็นว่า โครงการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ของรัฐสภา ไม่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และมีโอกาสทุจริตในโครงการต่าง ๆ ด้วย อาทิ นาฬิกาเรือนละ 75,000 บาท จำนวน 200 เรือน, การปรับปรุงพื้นที่ของรัฐสภาในห้องต่าง ๆ พร้อมกับปรับปรุงห้องสื่อมวลชนมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าแพงที่สุดในโลก, การซื้อไมโครโฟนห้องประชุมสภาฯ มูลค่า 80 ล้านบาท, การติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่รัฐสภา และห้องเลขาธิการสภา 40 ล้านบาท เป็นต้น
นายวัชระ อภิปรายอีกว่า นอกจากนี้ ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เลขาธิการสภาฯ อ้างว่าเป็นไปตามดำริของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา และตามที่กรรมาธิการฯ ได้ขอเอกสารจัดซื้อจัดจ้างเอาไว้ ก็ไม่ได้รับเอกสารจัดซื้อจัดจ้างตามที่ต้องการ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่ามีช่องโหว่ของการทุจริต
ด้านนายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างในรัฐสภา ตนไม่ทราบมาก่อน และขอสาบานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ว่าตนไม่ทราบ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างนี้ตนรู้หลังจากที่ตกเป็นข่าวไปแล้ว จึงได้เรียกนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวมาสอบถาม ได้ความว่า นายสุวิจักขณ์ทำถูกต้องทุกขั้นตอน และพร้อมชี้แจงทุกประเด็น ทั้งนี้ ในการอภิปรายงบประมาณ นายวัชระอย่าพูดให้คนอื่นเสียหาย หรือกล่าวหาว่าบุคคลอื่นโกง เพราะมันอยู่นอกเหนือกรอบการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ
นอกจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้มีการทักท้วงเรื่องการที่นายวัชระอภิปรายอยู่ตลอด เนื่องจากเห็นว่านายวัชระใช้เวลาอภิปรายนานแล้วกว่า 1 ชั่วโมง แต่สุดท้ายการทักท้วงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ไม่เป็นผล ด้วยเหตุนี้เวลาที่นายวัชระใช้อภิปรายทั้งหมดจึงมากกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่การอภิปรายตามที่มีผู้เสนอคำแปรญัตติ มาตรา 3 ภาพรวมงบประมาณรายจ่ายปี 2557 ต่อไป
ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม