“หวัง อี้” สุดเอือมพฤติกรรม “อเมริกา” ซัดกลับไร้เสถียรภาพมากที่สุดในโลก

รมว.ต่างประเทศจีนอัดสหรัฐเป็นประเทศที่สร้างความไร้เสถียรภาพมากที่สุดในโลก ต้องการครองโลกแบบขั้วเดียว โดยไม่สนการพัฒนาของจีนและประเทศอื่นๆ ในตลาดเกิดใหม่ ด้าน “สิงคโปร์” หนุนอาเซียนและจีนกระชับความร่วมมือรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวถึงสหรัฐระหว่างการเดินทางเยือนสิงคโปร์ในวันนี้ โดยระบุว่าสหรัฐเป็นประเทศที่สร้างความไร้เสถียรภาพมากที่สุดในโลก ต้องการครองโลกแบบมีขั้วเดียว โดยไม่ต้องการเห็นการพัฒนาของจีนและประเทศอื่นๆในตลาดเกิดใหม่ ทั้งที่การพัฒนาของจีนจะช่วยสร้างผลประโยชน์และโอกาสต่อทุกประเทศ

โดยเมื่อวันพุธ (9 ส.ค.) ที่ผ่านมา นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการลงทุนใหม่และความเชี่ยวชาญของสหรัฐที่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน คาดว่าจะบังคับใช้ในปี 2024 มีเป้าหมายไปที่การลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) บางชนิด โดยกำหนดให้จีนเป็น “ประเทศที่น่ากังวล” และจะจำกัดการลงทุนของอเมริกาในเทคโนโลยีด้านความมั่นคงของชาติ 3 ประเภท ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีข้อมูลควอนตัม และระบบเอไอบางชนิด

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์จีนก็ได้ออกมาตอบโต้อย่างแข็งกร้าวว่า “จีนมีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง และขอรักษาสิทธิในการออกมาตรการตอบโต้” กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า “สิ่งนี้ขัดแย้งกับเศรษฐกิจการตลาดและหลักการแข่งขันอย่างเป็นธรรมที่สหรัฐให้การสนับสนุนมาโดยตลอด มาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการและการตัดสินใจของบริษัทต่าง ๆ อีกทั้งบ่อนทำลายระเบียบทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และจะทำให้ความมั่นคงของอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงักอย่างรุนแรง”

ด้านนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์ให้การสนับสนุนอาเซียนและจีนในความร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคอย่างเต็มที่