การเดินทางเยือน 3 ประเทศ (สิงคโปร์-มาเลเซีย-กัมพูชา) ของ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ กรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นไปด้วยความชื่นมื่นและสัมฤทธิ์ผลด้วยดี
เริ่มต้นด้วยการเยือนสิงคโปร์เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) พบกับ “ลีเซียนลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ทั้งสองฝ่ายแสดงคำมั่นเดินหน้าพัฒนามิตรภาพและความร่วมมือทวิภาคี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนคุณภาพสูงรอบด้านที่มุ่งเน้นอนาคต
หวังกล่าวว่าความสัมพันธ์จีน-สิงคโปร์ จะยังคงมีบทบาทในการพัฒนาความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของจีน ภายใต้การชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ของคณะผู้นำสองประเทศ พร้อมแสดงการสนับสนุนจากจีนที่มีต่อการเติบโตและความรุ่งเรืองของสิงคโปร์ตามเจตจำนงของประชาชน
“มิตรภาพของสิงคโปร์และจีนมีรากฐานมั่นคง อันเกิดจากคณะผู้นำรุ่นก่อนของทั้งสองประเทศ สิงคโปร์ชื่นชมความมุ่งมั่นและความพยายามของจีนในการผลักดันการสร้างความทันสมัย และจะทำงานร่วมกันเพื่อเดินหน้าความร่วมมือทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเปิดบทใหม่ของความสัมพันธ์ในอนาคต” ลี กล่าว
ลีกล่าวอีกว่าโลกปัจจุบันที่ปั่นป่วน เรายังคาดหวังการดำเนินบทบาทนำจากกลุ่มประเทศใหญ่ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยสิงคโปร์สนับสนุนสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระชับความร่วมมือกับจีน และร่วมคุ้มครองสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาระดับภูมิภาค
ขณะที่หวังย้ำว่า จีนได้ค้นพบวิถีทางการพัฒนาอันเหมาะสมกับสภาพบ้านเมืองของตนเอง โดยการพัฒนาของจีนถือเป็นการเติบโตของกองกำลังสันติภาพและการเพิ่มพูนปัจจัยสร้างเสถียรภาพ ซึ่งจะนำพาผลประโยชน์อันยั่งยืนและโอกาสการพัฒนามาสู่ทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากนั้น หวังอี้ ได้ประชุมร่วมกับแซมบรี อับดุล คาดีร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย เมื่อวันศุกร์ (11 ส.ค.) ระบุว่า จีนนับถือมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านฉันมิตร และพันธกิจสำคัญของการทูตจีนที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนบ้าน
หวังเรียกร้องทั้งสองฝ่ายขยายการสื่อสารและการประสานงาน เพิ่มพูนความไว้วางใจซึ่งกันและกันในเชิงยุทธศาสตร์ สนับสนุนอีกฝ่ายในการคุ้มครองผลประโยชน์หลัก ตลอดจนสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมาย และร่วมยึดถือบรรทัดฐานพื้นฐานของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ขณะที่การก่อสร้างทางรถไฟชายฝั่งตะวันออก (ECRL) และ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” (Two Countries, Twin Parks) ซึ่งเป็นสองโครงการสำคัญตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) มีความคืบหน้าที่ดี โดยจีนและมาเลเซียมีความร่วมมืออันดีในการผลิตยานยนต์ เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานใหม่ ซึ่งจีนส่งเสริมกลุ่มบริษัทจีนเข้าลงทุนและเริ่มต้นธุรกิจในมาเลเซียเพิ่มขึ้น เพื่อบ่มเพาะช่องทางการเติบโตใหม่ๆ ของความร่วมมือ และจีนยินดีกระชับความร่วมมือทวิภาคีในด้านเทคโนโลยีการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร และอื่นๆ รวมถึงนำเข้าผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพจากมาเลเซียเพิ่มขึ้น
ปิดท้ายด้วยการพบปะกับ ฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ ซุน จันทอล ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เมื่อวันเสาร์ (12 ส.ค.) ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นจะเดินหน้าสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกัน หวังกล่าวว่าจีนสนับสนุนกัมพูชาอย่างแน่วแน่ในการเดินหน้าสู่เส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับเงื่อนไขของประเทศ ปกป้องอธิปไตย เอกราช และศักดิ์ศรีของชาติ รวมถึงมีบทบาทมากขึ้นในกิจการระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านและกำลังสร้างประชาคมจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกัน
