เมื่อวันที่ 21 ส.ค66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ แจ้งว่า จากกรณีที่คุณแม่เด็กทารกวัย 3 เดือน เดินทางเข้าร้องขอให้ช่วยเหลือเพื่อหาความจริงว่า ลูกเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค.66 ได้พาลูกวัย 3 เดือน ไปฝากครูที่เนอสเซอรี่เลี้ยงไว้วันแรก เวลา 7 โมงเช้า ระหว่างวันมีการแชทคุยกับครูตลอดทางไลน์ ว่าน้องทำอะไรบ้าง
ช่วงเย็นเวลา 4 โมง 43 นาที ครูโทรมาแจ้งว่าน้องสำลักนมหยุดหายใจ ให้คุณแม่รีบมา ในระหว่างนั้นครูได้พาน้องไปคลินิกแล้ว (คลินิกทั่วไปเครือกล้วยน้ำไทย) ประมาณ 10 นาทีคุณแม่ไปถึง เห็นเจ้าหน้าที่ช่วยปั๊มหัวใจน้อง เห็นน้องขาม่วง ไม่มีชีพจร
ประมาณ 6 โมง เจ้าหน้าที่คลินิก โทร.แจ้ง 1669 ให้ไปส่งที่ รพ.รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ เมื่อถึงรพ.ช่วยปั๊มหัวใจ หลังจากนั้นคุณหมอออกมาแจ้งคุณแม่ว่าน้องไม่อยู่กับเราแล้ว
ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ท้องจนคลอดน้องไม่เคยมีอาการใดๆ และป่วยใดๆ น้องแข็งแรงมาก ตลอดระยะเวลาที่ 3 เดือนที่คุณแม่เลี้ยงเองมาตลอด แต่พอไปฝากที่เนอสซิ่งโฮมแห่งนี้ได้ 1 วัน ก็เกิดเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น
นายรณณรงค์ กล่าวว่าวันพรุ่งนี้ วันที่ 22 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ตนมอบหมายให้ ทนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนางสาวสุปราณี พรมจำปา เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จากกรณีที่ได้พาลูกสาว วัย 3 เดือน ไปฝากคุณครูที่เนอสเซอรี่เลี้ยง แล้วต่อมาลูกเกิดอาการสำลักนม จนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทางโรงเรียนหรือครูที่รับเลี้ยงไม่มีการออกมาเยียวยาหรือรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนับแต่เกิดเหตุ
เพื่อขอให้ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นหน่วยงานกลางในการช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจมาตรฐานการให้บริการสถานรับเลี้ยงเด็ก
