วันพฤหัสบดี, กันยายน 19, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมตํารวจไซเบอร์จับกุมกลุ่มขบวนการ “หลอกรักออนไลน์” (Romance Scams)

Related Posts

ตํารวจไซเบอร์จับกุมกลุ่มขบวนการ “หลอกรักออนไลน์” (Romance Scams)

สืบเนื่องจากกรณีผู้เสียหาย แจ้งความระบบการแจ้งความออนไลน์ กรณีถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้รัก แล้วโอนเงิน โดยคนร้ายใช้เทคนิคทางจิตวิทยาผ่านเครื่องมือทางเทคโนโลยี (แอพพลิเคชั่นอินสตาแกรม) ส่งข้อความมาในลักษณะชวนคุย เพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ หลงคารม และตกลงคบเป็นแฟนกัน ซึ่งได้พูดคุยกันเรื่อยมา จนกระทั่งคนร้ายอ้างว่าจะส่งของมาให้เป็นเงินจํานวน 50,000 ปอนด์ พร้อมด้วย นาฬิกา, กระเป๋าหรู และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ แต่ผู้เสียหายต้องโอนชําระเงินค่าขนส่งไปให้ก่อน ผู้เสียหาย หลงเชื่อจึงโอนเงินไป มูลค่าความเสียหาย 1,090,000 บาท พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 จึงได้เร่งรัดสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจไซเบอร์ออกสืบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้อง จนทราบว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้เสียหายในระบบแจ้ง ความออนไลน์ จํานวน 7 Case Id มูลค่าความเสียหายรวม 18,542,500 บาท เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.1 บก. สอท.5 จึงได้สืบสวนสอบสวนขออนุมัติศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้น เมื่อวันที่ 23 ส.ค.66 ที่ผ่านมา จํานวน 7 จุด ดังนี้

1) จุดที่ 2) จุดที่ 3) จุดที่ 4) จุดที่ 5) จุดที่ 6) จุดที่ 7) จุดที่
1 ห้องพักคอนโด ซอยสุขุมวิท 38 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 2 ห้องพักแมนชัน ซอยรัชดาภิเษก 7 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
3 ห้องพักคอนโด ซอยสุขุมวิท 34 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตพระโขนง กรุงเทพฯ 4 ห้องพักคอนโด ถนนนราธิวาส ซอย 9 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
5 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 5 ตําบลแม่น้ํา อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 6 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 1 ตําบลราไวย์ อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
7 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 4 ตําบลฉลอง อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ผลการตรวจค้นสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ
1) MRS.MYINT สัญชาติเมียนมา บุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 2672/2566 ลงวันที่ 22 ส.ค.66
2) MR.SHOON สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาที่ 2676/2566 ลงวันที่ 22 ส.ค.66


พร้อมของกลางที่ตรวจยึดอายัด รถยนต์หรู, Macbook, Ipad, ธนบัตรดอลลาร์, ธนบัตรพม่า, ธนบัตร ไทย, สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมของกลางอื่นอีกหลายรายการ
ซึ่งการกระทําดังกล่าวของผู้ต้องหาเป็นการกระทําความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตน เป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือ ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ประชาชน” จากนั้นจึงนําตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีตามกฎหมาย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts