วันศุกร์, กันยายน 27, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีน'เศรษฐา' ถกซีอีโอ 8 สายการบิน ทอท.-กพท. มีแผนเปิด 'ฟรีวีซ่า' จีน-อินเดีย

Related Posts

‘เศรษฐา’ ถกซีอีโอ 8 สายการบิน ทอท.-กพท. มีแผนเปิด ‘ฟรีวีซ่า’ จีน-อินเดีย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำทีมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ประชุมที่พรรคเพื่อไทยร่วมกับผู้ประกอบการสายการบินของไทย 8 สายการบิน ประกอบด้วย การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ นกแอร์ ไทยสมายล์ ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท 

รวมถึงหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เกี่ยวกับสถานการณ์คมนาคมทางอากาศที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซันปลายปีนี้

สำหรับปัญหาที่เสนอนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย อาทิ 1.การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ทันไฮซีซันอย่างน้อย 20% 2.การเพิ่มศักยภาพเครื่องบินให้การปรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น 3.การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีนและอินเดีย 4.การเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้เหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว

@suebjarkkhao

‘เศรษฐา’ ถกซีอีโอ 8 สายการบิน ทอท.-กพท. มีแผนเปิด ‘ฟรีวีซ่า’ จีน-อินเดีย

♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao – Suebjarkkhao

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณ ทอท.ที่ร่วมมือส่งเสริมการทำงานกับรัฐบาลเพื่อไทย ในการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน ซึ่งส่งเสริมรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทั้งการบริหารจัดการในสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน และการเพิ่มหรือขยายรันเวย์

“ข้อเสนอของสายการบินเป็นความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันส่งเสริมและสร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องดีที่ทุกสายการบินตอบรับนโยบายฟรีวีซ่าในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซึ่งคาดว่าทุกสายการบินต้องการขยายจำนวนเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยวตอบรับนโยบายทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ”

ทั้งนี้ รัฐบาลเพื่อไทยมีแผนจะไปโปรโมตการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศปี 2567 ในเที่ยวบินที่มีความพร้อม ซึ่งแต่ละสายการบินมีสัญญาณที่ดีว่าหากรัฐบาลสามารถเพิ่มความต้องการนักท่องเที่ยวไทยได้ สายการบินจะแข่งขันกันโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงตั๋วโดยสารในราคาเหมาะสม

รายงานข่าวระบุว่า ช่วงก่อนเริ่มการประชุม นายเศรษฐา กล่าวกับผู้ประกอบการสายการบินว่า คงไม่เร็วเกินไปที่จะหารือกับภาคเอกชน เพราะผู้ที่นั่งอยู่ตรงนี้มีทั้งว่าที่รองนายกฯ ที่ดูแลเศรษฐกิจ ไปจนถึงรัฐมนตรีทั้งนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สำหรับการหารือกับภาคเอกชนวานนี้ พรรคเพื่อไทยต้องการรับฟังข้อเสนอแนะ ว่ารัฐบาลช่วยเหลือธุรกิจการบินเพื่อแก้ปัญหา โดยรัฐบาลร้อนใจถึงปัญหาช่วงปลายปีนี้ที่เป็นไฮซีซันของภาคการท่องเที่ยว จึงคิดว่าควรมาหารือกันก่อน ดีกว่าต้องรอนาน 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ภาคเอกชนมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และจะขอนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้ได้รับทราบด้วย 

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า นายเศรษฐามีนโยบายทำให้ไตรมาส 4 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยกล่าวถึงการให้ฟรีวีซ่าแก่จีนและอินเดีย และเชื่อว่ารัฐบาลจะเริ่มนโยบายดังกล่าวไม่นานหลัง ครม.รับตำแหน่ง รวมถึงเที่ยวบินในประเทศแต่ละสายการบินว่าพร้อมแค่ไหน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวในภาคใต้ เช่น ภูเก็ต และกระบี่

นอกจากนี้ 8 สายการบินได้เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันสำหรับเครื่องบินไอพ่นเส้นทางบินในประเทศ หลังกลับมาเก็บอัตราเดิม 4.726 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 โดยขอลดอัตราการจัดเก็บภาษีมาอยู่ที่ 0.20 บาทต่อลิตร จากนั้นทยอยเพิ่มแบบขั้นบันได เหมือนก่อนหน้านี้ที่เคยออกมาตรการช่วยสายการบินช่วงโควิด-19 ระบาด จัดเก็บอัตรา 0.20 บาทต่อลิตร ถึงวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ พร้อมร่วมมือรัฐบาลใหม่เต็มที่หลังการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 จึงอยากหารือการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นการเดินทาง

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับหน่วยงานและสายการบินที่มาร่วมหารือในวันนี้ ได้แก่

1.นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน)

2.นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อํานวยการสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

3.นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน)

4.นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ท

5.นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย

6.นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์

7.นายชัยยง รัตนาไพศาลสุข รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด

8.นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จํากัด (มหาชน)

9.นายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยไลอ้อนแอร์

10.นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงมาตรการจูงใจนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยปัจจุบันชาวจีนส่วนใหญ่ 80-90% เดินทางเข้าไทยด้วยการขอวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VoA) ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า VoA คนละ 2,000 บาทต่อครั้ง รวมทั้งช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) ปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยสะสม 2 ล้านกว่าคน ตอนนี้ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนคือปัญหาเศรษฐกิจจีน หากรัฐบาลใหม่พิจารณามาตรการด้านวีซ่าดังกล่าวแก่ชาวจีน ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะเป็นได้เร่งกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไปถึงเป้าหมาย 5 ล้านคนในปีนี้ ให้ฟื้นตัวเกือบ 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาดซึ่งมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากถึง 11 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการขยายสิทธิการบินขนส่งทางอากาศระหว่างไทย-อินเดีย ซึ่งเพิ่มความถี่เที่ยวบินการขนส่งทางอากาศตลาดเอเชียใต้ 6 เมืองหลักของอินเดีย คือ นิวเดลี มุมไบ บังกาลอร์ โกลกาตา เชนไน และไฮเดอราบาด โดยจะยกระดับสู่น่านฟ้าเสรี (Open Sky) ได้ในอนาคต เพื่อดึงนักท่องเที่ยวอินเดียซึ่งเป็นอีกตลาดสำคัญเข้ามาจับจ่ายในไทยมากขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts