“…จ่าคิง แตงทิม สะพานใหม่ พาผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความกองปราบร้องเมียตำรวจยศร้อยตำรวจเอก สังกัด สน.พหลโยธิน โกงเงิน สูญกว่า 5 แสนบาท แจ้งความที่ สน.พลโยธิน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่รับแจ้งความ เมื่อไปสอบถามยัง ผู้กำกับการ สน. พหลโยธิน ก็ได้รับคำตอบว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่ง ตนเองทำได้แค่ตักเตือนกับสามีนางนุ้ยที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้…”
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 6 ก.ย. 66 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิง แตงทิม สะพานใหม่ พาผู้เสียหายหลายราย เข้าแจ้งความศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีที่ถูก “นางนุ้ย” ภรรยานายของตำรวจ ยศร้อยตำรวจเอก สังกัด สน.พหลโยธิน ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร สามารถเจรจากับทางธนาคารเพื่อให้อนุมัติปล่อยเงินกู้ตามจำนวนที่ต้องการได้ โดยส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะได้รับการติดต่อจากนางนุ้ยที่ทักผ่านเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มหาเงินกู้ และมีอีกบางส่วนที่นางนุ้ยได้เข้าไปเจรจาพูดคุยด้วยตนเองกับผู้ที่ต้องการใช้เงิน โดยคิดเงินค่าดำเนินการ และค่าธรรมเนียม รายละหลักพันถึงหลักหมื่นบาท แต่ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับการอนุมัติกู้เงินเสียที พอตรวจสอบไปยังธนาคารจึงพบว่า นางนุ้ยไม่ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินกับธนาคาร และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่ถูกหลอก มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลอกซื้อโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยอ้างว่าจะได้ราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดในราคาฉบับละ 84 บาท แต่พอถึงเวลาก็ไม่ได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลตามที่กล่าวอ้าง
มีผู้เสียหายหลายรายได้ไปแจ้งความเรื่องคดีกับตำรวจท้องที่แล้ว เมื่อตรวจสอบพบว่านางนุ้ยมีหมายจับในคดีฉ้อโกงถึง 7 หมาย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายหนึ่งที่ไปแจ้งความที่ สน.พลโยธิน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่รับแจ้งความ เมื่อไปสอบถามยัง ผู้กำกับการ สน. พหลโยธิน ก็ได้รับคำตอบว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่ง ตนเองทำได้แค่ตักเตือนกับสามีนางนุ้ยที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ จึงมาแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อให้ดำเนินการจับกุมนางนุ้ย ที่มีหมายจับหลายหมาย แต่ตำรวจกลับไม่ดำเนินการจับกุมแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าเหตุผลน่าจะมาจากการที่นางนุ้ยมีสามีเป็นตำรวจ ที่คอยช่วยเหลือปกป้องกัน
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ก็ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบต่อไป
สืบจากข่าว รายงาน
