กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.ภูวดล เปรมปรีวรรณ
รอง สว.กก.2 บก.ป., ร.ต.อ.นนทพัทธ์ กาวซู รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป., ร.ต.ท.ศิร์รัฐ์ ภิรมย์บวรภักดิ์,
ร.ต.ต.วรไพโรจน์ ทรัพย์สมบูรณ์ รอง สว.(ป.) กก.2 บก.ป., ด.ต.ศักรินทร์ แก้วมูลมุข, จ.ส.ต.ณัทกร
ศิรบัญชากุล, ส.ต.อ.ธีระวัฒน์ หาญประโคน ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายวิฑูรย์ ฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดแม่สอด ที่ จ27/2558 ลงวันที่ 19 ก.พ.2558 เลขคดีอาญาที่ 1453/2557 สภ.แม่สอด จ.ตาก ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์”
สถานที่จับกุม ริมถนนบางศรีเมือง ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ นายวิฑูรย์ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นชาวกระเหรี่ยงเกิดและอยู่อาศัยที่จังหวัดราชบุรี จนได้สัญชาติไทย เมื่อปี พ.ศ.2552 ก่อนจะรู้จักและคบค้าสมาคมกับชาวกระเหรี่ยงและทหารชนกลุ่มน้อยบริเวณชายแดนแม่สอดจังหวัดตาก จนเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่านายวิฑูรย์ฯ เป็นพ่อค้าไม้ สามารถนำเข้าไม้ต่างๆ ตามที่ต้องการได้
ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2557 ผู้เสียหาย มีความต้องการไม้พะยูงขนาดใหญ่จำนวนหลายต้น และทราบข่าวว่านายวิฑูรย์ฯ สามารถหาไม้พะยูงและนำเข้าไม้พะยูงมาให้ตนได้ จึงมาพบเพื่อตกลงซื้อขายและทำสัญญากับนายวิฑูรย์ฯ จากนั้นนายวิฑูรย์ฯ ได้แจ้งผู้เสียหายว่าต้องจ่ายเงินค่าไม้พะยูงเลย ผู้เสียหายจึงจ่ายเงิน จำนวน 1,000,000 บาท ให้กับนายวิฑูรย์ฯ ก่อนที่นายวิฑูรย์ฯจะบอกว่าต้องซื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ในการตัดต้นไม้เพิ่มเติม ผู้เสียหายจึงซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมให้นายวิฑูรย์ฯ อีกกว่า 700,000 บาท
จากนั้นนายวิฑูรย์ฯ ได้พาผู้เสียหายนำอุปกรณ์การตัดไม้ไปมอบให้กับทหารชนกลุ่มน้อยที่บริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนแม่สอด จังหวัดตาก ผู้เสียหายเห็นว่านายวิฑูรย์ฯ รู้จักและคุ้นเคยกับทหารชนกลุ่มน้อยจริงยิ่งทำให้หลงเชื่อ กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดรับไม้ ผู้เสียหายกลับติดต่อนายวิฑูรย์ฯ ผู้ต้องหา ไม่ได้ สอบถามคนในละแวกใกล้เคียง ทุกคนล้วนปฏิเสธ พร้อมบอกว่าไม่มีใครพบเห็นและติดต่อนายวิฑูรย์ฯ จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก ก่อนไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งศาลจังหวัดแม่สอด ออกหมายจับนายวิฑูรย์ดังกล่าว
หลังจากเกิดเรื่องคดีความ นายวิฑูรย์ฯ ก็ได้ย้ายที่พักอาศัยต่อเนื่อง เพื่อหลบหนีการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ก่อนที่ตำรวจกองปราบปรามจะสืบทราบว่าหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี กระทั่งเฝ้าติดตาม สังเกตการณ์ จนพบผู้ต้องหา จึงเข้าจับกุมตัว ก่อน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป