จีนเซ็ง! เจรจาการค้าทวีภาคีกับยุโรปชื่นมื่นไม่ทันข้ามคืน โดนตั้งแง่รถยนต์ไฟฟ้าส่งเข้าไปขายในยุโรป มีราคาถูกเกินจริงเพราะได้เงินอุดหนุนจำนวนมหาศาลจากภาครัฐ จะเพิ่มการจัดเก็บภาษีเป็น 27.5% สมาคม CPCA ออกโรงอัดกลับมโนไปเอง หนุนจีนออกมาตรการตอบโต้
การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี20 ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ กับการคุยนอกรอบระหว่าง หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กับ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) โดยหลี่แสดงความหวังว่าสหภาพยุโรป (EU) จะยึดมั่นหลักการเศรษฐกิจแบบตลาดและความร่วมมืออันยุติธรรม รักษาการเปิดกว้างตลาดการค้าและการลงทุน รวมถึงมอบสภาพแวดล้อมอันเป็นธรรม โปร่งใส และปราศจากการเลือกปฏิบัติแก่กลุ่มบริษัทจีนที่เข้าไปลงทุนและดำเนินงานในยุโรป
“ทุกประเทศไม่ควรทำให้เรื่องเศรษฐกิจเป็นประเด็นทางการเมือง” หลี่ กล่าวกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป พร้อมย้ำหลักสำคัญของสายสัมพันธ์จีน-ยุโรป คือความร่วมมือ และความสัมพันธ์นี้ต่างส่งผลประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายโดยธรรมชาติ “จีนและยุโรปไม่มีความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งยังไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในขั้นพื้นฐาน จีนพร้อมทำงานร่วมกับยุโรปเพื่อส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งและมั่นคง”
แต่เพียงชั่วข้ามคืน ก็มีรายงานข่าวออกมาว่า ยุโรปจะเพิ่มการจัดเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เป็นระดับเดียวกับที่สหรัฐจัดเก็บสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าจากจีนคือ 27.5% โดยนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ตลาดโลกเต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจากจีน และสาเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมีราคาถูกมากเกินจริง เนื่องจากได้เงินอุดหนุนจำนวนมหาศาลจากภาครัฐ
เรื่องนี้ทำให้ สมาคมรถยนต์โดยสารแห่งประเทศจีน (CPCA) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าว นายชุ่ย ตงซู เลขาธิการ CPCA ระบุในแถลงการณ์ว่า การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่เป็นเพราะได้รับเงินอุดหนุนจำนวนมหาศาลจากรัฐ แต่เป็นเพราะห่วงโซ่อุปทานของจีนนั้นมีการแข่งขันสูงและพัฒนาอย่างรวดเร็ว
“สหภาพยุโรปควรมีมุมมองที่เป็นกลางในเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน แทนที่จะใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจและการค้าเพื่อขัดขวางความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยุคใหม่” นายชุ่ย กล่าว
ขณะที่หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส รายงานคำวิจารณ์ต่อเรื่องดังกล่าวว่า ยุโรปอาจกำลังหวาดกลัวการแข่งขันจากจีน พวกเขาจึงต้องใช้มาตรการกีดกันทางการค้าเป็นเกราะป้องกันสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเชื่องช้า หากสหภาพยุโรปดำเนินการอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้ จีนก็ควรจะมีเครื่องมือต่าง ๆ เป็นมาตรการตอบโต้ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางกฎหมายของบริษัทจีนเช่นเดียวกัน