กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ รอง ผกก.4 บก.ป.,
พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เอนก
บุญตา รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์ สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.นราวิชญ์
เปี้ยสุ รอง สว.กก.4 บก.ป., ด.ต.จิรัสย์ พีระชัยนันต์, ด.ต.หญิง อาภากร อักขรา, จ.ส.ต.ภาณุพงศ์ ใจกาวิน,
ส.ต.อ.ฐาณภัทร ศิลาฤทธิ์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม
- นายเอกพงษ์ฯ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดระนอง ที่ 20/2566 ลงวันที่ 16 มกราคม 2566 ข้อหา “สนับสนุนฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และหมายจับศาลจังหวัดระนอง
ที่ 187/2566 ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น” - น.ส.พัชรีวรรณฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงนครปฐม ที่ 165/2566 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ข้อหา “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงผู้อื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งและร่วมกันฉ้อโกง” และ ศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 1/2566 ลงวันที่ 5 มกราคม 2566 ข้อหา “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงผู้อื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งและร่วมกันฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณ ลานจอดรถหอพักแห่งหนึ่ง ซอยไสวประชาราษฎร์ 23 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ ในคดีของนายเอกพงษ์ฯ มีคนร้ายใช้บัญชีชื่อนายเอกพงษ์ฯ หลอกผู้เสียหายซึ่งเป็นนักศึกษา ให้ร่วมลงทุนออนไลน์ โดยการโอนเงินเข้าทำภารกิจ และจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่น โดยคนร้ายเสนอค่าตอบแทนที่ 30-50% ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงทำการโอนเงินไปยังบัญชีชื่อนายเอกพงษ์ฯ และบัญชีอื่นๆ ที่คนร้ายแจ้ง รวม 8 ครั้ง จนผู้เสียหายหมดเนื้อหมดตัว มูลค่าความเสียหาย 2 หมื่นกว่าบาท จึงมาแจ้ง
ความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับไว้แล้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวนายเอกพงษ์ฯ ซึ่งพบว่า ในเว็บไซต์ Blacklist Seller พบบัญชีชื่อนายเอกพงษ์ฯ มีการก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกหลายคดี โดยจะเน้นการหลอกให้ผู้เสียหาย โอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นการทำภารกิจโอนเงิน เพื่อแลกกับการที่ผู้เสียหายจะสามารถถอนเงิน
ที่โอนมาพร้อมกับค่าตอบแทน กลับคืนไปได้ แต่สุดท้ายก็จะถูกหลอกจนหมดตัว เมื่อสืบสวนพบว่าในส่วนคดีของน.ส.พัชรีวรรณฯ ก็มีพฤติการณ์คดีในลักษณะเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียหายหลายราย และมูลค่าความเสียหายรวมหลักแสนบาท
จากการสืบสวนพบว่า ทั้งสองคน หลบหนีมากบดานอยู่ที่ หอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ลาดสวาย
อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายเอกพงษ์ฯ
กับ น.ส.พัชรีวรรณฯ อยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับทั้ง2 คน ก่อนคุมตัวนายเอกพงษ์ ฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากจั่น และจับกุม น.ส.พัชรีวรรณฯ ส่งพนักงานสอบสวน
สภ.ขาณุวรลักษณบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ทั้งสองคนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา