จริงหรือไม่? ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ คาดหวังว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่เมืองซานฟรานซิสโก ในเดือน พ.ย.2023 ที่จะถึงนี้ ตามคำเชิญของรัฐบาลวอชิงตัน
ไบเดนหวังจริงๆหรือว่าอยากให้ผู้นำจีนจะเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2023 ซึ่งสหรัฐเป็นเจ้าภาพ เพื่อจะได้มีการพบหารือนอกรอบ ต่อจากการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ “จี20” ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว
ขณะที่สัญญาณจากจากปักกิ่ง ยังไม่มีการตอบรับคำเชิญอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความตรึงเครียดด้านการค้าที่ยังคุกรุ่น โดยเฉพาะการที่รัฐบาลวอชิงตันเตรียมใช้กฎหมาย จำกัดการลงทุนบางส่วน “ในด้านเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว” ของสหรัฐในต่างประเทศ ครอบคลุมการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยจะเป็นการห้ามการลงทุนนอกตลาดและธุรกิจร่วมทุนใหม่ เพื่อเป็นการยกระดับการควบคุมการหลั่งไหลของกระแสเงินขาออก และป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นพัฒนาสิ่งเดียวกันตอบโต้ศักยภาพของสหรัฐ ปัญหาช่องแคบไต้หวัน วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการกล่าวค่อนขอดว่าผู้นำจีนเป็นเผด็จการ
กระนั้นก็ตาม ล่าสุดมีรายงานออกมาจากสื่อของสหรัฐ (28 ก.ย.) ว่า ทำเนียบขาวและรัฐบาลจีนกำลังหารือเกี่ยวกับการเดินทางเยือนสหรัฐของนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีนที่เดินทางเยือนสหรัฐนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่ง ว่าการว่าการเดินทางของรองนายกรัฐมนตรีจีนก็เพื่อเตรียมการสำหรับการเดินทางเข้าร่วมประชุมเอเปคของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นั่นเอง
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีการเตรียมการสำหรับการเดินทางเยือนสหรัฐของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งหากการเจรจาเป็นไปด้วยดี อาจเป็นการปูทางให้ปธน.สีเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคที่สหรัฐจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่นครซานฟรานซิสโกในเดือนพ.ย.นี้ และจะทำให้มีการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สี หลังจากที่ผู้นำทั้งสองได้พบปะกันในการประชุมสุดยอด G20 ที่อินโดนีเซียในเดือนพ.ย. 2022
การประชุมเอเปค 2023 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสําหรับทุกคน” เป็นเวทีสําคัญสําหรับสหรัฐ ในการพัฒนานโยบายเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เสรี เป็นธรรม เปิดกว้าง และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ครอบคลุมเศรษฐกิจสมาชิกเอเปค 21 ประเทศคิดเป็นเกือบร้อยละ 40 ของประชากรโลก เกือบร้อยละ 50 ของการค้าโลก และมากกว่าร้อยละ 60 ของการส่งออกสินค้าของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมเอเปก เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โลกต่างก็จับตาการพบกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศเช่นเดียวกัน แต่ในที่สุด “ไบเดน” ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมเอเปคในกรุงเทพฯ โดยมอบหมายให้รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐฯ มาร่วมการประชุมแทน
สถานการณ์ครั้งนั้น ทำให้ ปธน.สี ที่เดินมามาร่วมประชุมมีแต้มต่อในการส่งเสริมวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจของจีนต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ แบบม้วนเดียวจบ
จึงต้องจับตามองจนถึงนาทีสุดท้ายว่า การประชุมเอเปคที่ซานฟรานซิสโกครั้งนี้ “สี” จะเข้าร่วมประชุมหรือเปล่า และถ้าผู้นำจีนปรากฏตัวบนเวทีเอเปค 2023 จะขโมยซีนโลกทั้งใบไว้ในมืออีกหรือเปล่า