วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
หน้าแรกไม่มีหมวดหมู่CIB ร่วมสืบภาคสอง 2 รวบ 2 กรรมการบริษัทแสบ หลอกคนทำงานต่างประเทศ

Related Posts

CIB ร่วมสืบภาคสอง 2 รวบ 2 กรรมการบริษัทแสบ หลอกคนทำงานต่างประเทศ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์
บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.,
ว่าที่ พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทาผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ,
พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.
และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.2

ร่วมกันจับกุม

  1. นายวรินทรฯ อายุ 30 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 454/2566 ลงวันที่ 25 สิงหาคม
    2566 ในความผิด “ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
    จากนายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศได้ และโดยการ
    หลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้หลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกง”
    และพบว่ายังมีอีก 2 หมายจับคือ
  • หมายจับของศาลอาญา ที่ 279/2566 ลงวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งต้องหาว่า “ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่น
    ว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สิน
    หรือประโยชน์อื่นใดๆ ฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ที่น่าจะเกิด
    ความเสียหายแก่ประชาชน”
  • หมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 319/2566 ลงวันที่ 7 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
    “พรบ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์”
    2.นายพัฒนชัยฯ อายุ 27 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 455/2566 ลงวันที่ 25 สิงหาคม
    2566 ในความผิด “ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับใบอนุญาต
    จากนายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศได้ และโดย
    การหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้หลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม
1.นายวรินทรฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ถูกจับกุมที่ บริเวณหน้าห้องพัก โรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ต.หมูสี
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

  1. นายนายพัฒนชัยฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ถูกจับกุมที่ ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน
    ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์ ก่อนจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองกลุ่ม ผู้เสียหายประมาณ 80 คน ได้รวมตัวกันเข้าร้องเรียน
ต่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่เป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจากบริษัททัวร์แอบแฝง
ส่งผีน้อยไปทำงานต่างประเทศ ใน Tiktok หลอกลวงผู้เสียหายว่าจะพาไปทำงานเป็นผีน้อยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าสัมนา และมีวิธีช่วยให้ผ่าน ตม. ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสอง เมื่อชำระเงินไปแล้วกลับไม่ได้ไปทำงานตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อขอเงินคืนกลับถูกผัดผ่อนเรื่อยมา ก่อนต่อมาจะถูกบล็อกช่องทางการติดต่อและไม่ยอมคืนเงิน อีกทั้งยังถูกผู้ต้องหาแจ้งความกลับจนถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามหนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ช่วงประมาณปี 2565 ได้พบเห็นประกาศรับสมัครหาคนไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ทางโซเชียลมีเดีย ให้รายได้ดี วันละ 8,500 เยนต่อวัน จึงเกิดสนใจ จึงได้ติดต่อทักไป
หาคนที่โพสต์ประกาศ ก่อนมีการพูดคุยถึงรายละเอียดการทำงานจนผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินผู้ต้องหาเป็นเงินคนละ 29,990 – 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินการ หลังจากโอนเงินให้ผู้ต้องหาแล้ว ได้มีการนัดหมายกำหนดวันที่จะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ได้รับการเลื่อนวันเดินทางเรื่อยมาถึง 2 ครั้ง โดยอ้างว่า มีคนแจ้ง
เจ้าหน้าที่ ตม. และกรมแรงงาน ว่าจะมีการพาคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่น จึงยับยั้ง
การเดินทางออกไปก่อน โดยผู้ต้องหาได้ยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายเป็น 2 ข้อ คือคนที่จะไปต่อ ก็จัดเดินทางอีกครั้ง
ส่วนคนที่ไม่ไปต่อจะคืนเงินให้ ทำให้ผู้เสียหายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มคนที่ไม่ไปต่อก็พยายามติดต่อขอเงินคืน
แต่ก็ถูกผลัดวันออกไปเรื่อยๆ โดยใช้ข้ออ้างต่างๆ ส่วนกลุ่มคนที่มีความต้องการที่จะไปต่อ กลับถูกเลื่อนการ
เดินทางออกไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินทางจริง จึงติดต่อขอเงินคืน แต่ก็ไม่เคยได้เงินคืน ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปร้องเรียนสื่อ
และเพจต่างๆ แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้ามานานกว่า 3 เดือน ซ้ำยังถูกกลุ่มผู้ต้องหา ฟ้องกลับในข้อหา
หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะข้อความบางส่วนที่กลุ่มผู้เสียหายคุยกันในไลน์กลุ่ม มีการพาดพิงถึง
กลุ่มผู้ต้องหา จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้ขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง, ร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถจัดหางานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้หลอกลวง และร่วมกันฉ้อโกง” ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาที่ 454/2566 และ 455/2566ลงวันที่ 25 ส.ค.2566 ตามลำดับ จนกระทั้งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts