เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ต.ค.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
พ.อ.อ.ชมะนันท์ แตงทิม อดีต สห.ทอ. แอดมินเพจ”จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พาผู้เสียหายถูกมีดแทงจนตาบอด แจ้งความที่ สน.คันนายาว ท้องที่เกิดเหตุเมื่อ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เรื่องเงียบ ผู้ต้องหายังลอยนวล เห็นกันทุกวันราว 5 เดือน ทำให้เครียด เลยมาร้องขอความเป็นธรรมกับเพจจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ เข้าพบ ร.ต.อ.วิวัฒน์ชัย เกณียนศรี รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.
นางรัชนี (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี มารดาของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุอยู่บ้านใกล้กัน เป็นเพื่อนกับลูกชาย ตั้งแต่ชั้นประถมโตมาด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุเวลาลูกชายโพสต์อะไรลงโซเชียลก็จะมีคอมเม้นต์ที่พูดจาไม่ดี เชิงแขวะว่าลูกตนใช้ของปลอม จนลูกชายตนได้ทักไปถามผู้ก่อเหตุถึงการกระทำดังกล่าว วันที่เกิดเหตุมีโทรศัพท์โทรมาหาตนว่าลูกชายโดนแทง จึงไปแจ้งความที่ สน.คันนายาว เมื่อ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่คดีไม่คืบหน้า เบื้องต้นหมอบอกว่าต้องผ่าตัดด่วน จอประสาทตาดำแตกละเอียด รักษาตัวอยู่หนึ่งอาทิตย์ ต่อมาลูกชายตนถูกส่งไปที่โรงบาลอีกที่หนึ่งที่มีอุปกรณ์เครื่องมือดีกว่า หลังจากนั้น ต้องผ่าตัดควักดวงตาออกและใช้ตาเทียมมาใส่แทน ถ้าไม่ควักดวงตาออกจะทำให้ตาอีกข้างติดเชื้อ และอาจจะเสียตาทั้งสองข้าง ลูกชายตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ก่อนหน้านี้ลูกชายตนทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด
หลังจากเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเคยโทรมาขอโทษแล้ว อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ตนติดใจว่าถ้าไม่ได้ตั้งใจลูกตนจะตาบอดได้อย่างไร จนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาพาพยาน 2 ปากที่เป็นเพื่อนลูกไปให้ตำรวจสอบปากคำ แต่ไม่ได้สอบตำรวจบอกคอมพิวเตอร์เสีย เมื่อถามความคืบหน้าของคดี ก็ไม่มีความคืบหน้า
ด้าน นายพรเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย เผยว่า เวลาตนโพสต์ในโซเชียลฯ ผู้ก่อเหตุก็จะเข้ามาคอมเม้นต์พูดจาไม่ดีตลอด ตนจึงทักไปถามว่ามีปัญหาอะไรให้ก็ให้มาคุยกัน หลังจากนั้นตนและผู้ก่อเหตุก็ได้นัดเจอ และได้มีการพูดคุยกันในซอยหมู่บ้าน วันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุใส่หมวกกันน็อค แต่ตนไปตัวเปล่าไม่มีอาวุธติดมือไปด้วย
ตนเห็นผู้ก่อเหตุถือมีดแต่ไม่คิดว่าจะแทงตน หลังจากนั้นอยู่ๆ ผู้ก่อเหตุก็วิ่งมาแทงตนแบบไม่ได้ตั้งตัว ถูกเข้าที่นัยตาจนมีน้ำวุ่นๆ ออกมาตนจึงติดใจว่าที่ผู้ก่อเหตุมาขอโทษแม่ตน และอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ทำไมถึงแทงที่หน้า ถ้าตนมีเจตนาที่จะต่อสู้กับผู้ก่อเหตุตนคงพกอาวุธไปแล้ว ตนหมดค่ารักษาหลักแสน ประกันสังคมก็กำลังจะหมด ไม่สามารถต่อได้เพราะว่าตอนที่ทำงานอยู่ส่งประกันสังคมไม่ครบ 12 เดือน
นาย เอ. พยานผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า วันที่เกิดเหตุตนนั่งอยู่หน้าปากซอย และมีรุ่นพี่โทรมาบอกว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมีปัญหาทะเลาะกัน ตนจึงเดินทางไปถามว่ามีปัญหาอะไรกัน และเข้าไปห้าม ตนไม่คิดว่าจะเกิดแทงกันขึ้น เพราะว่าทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนกัน ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนที่อยู่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ผู้ก่อเหตุทำอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
นางรัชนี กล่าวเพิ่มอีกว่า ตนมาขอความเป็นธรรม หลังจากไปแจ้งความแล้วคดีไม่คืบหน้า และไม่มีหมายเลขคดี ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม พรุ่งนี้จะครบ 5 เดือนแล้วที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ขอกองปราบช่วยเหลือดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตามกฏหมาย ตนขอเรียกร้องค่าเสียหาย 1.5 ล้านบาท เพราะลูกชายตาบอดตลอดชีวิต และลูกชายไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเพราะตาบอด
ร.ต.อ.วิวัฒน์ชัย พงส.กก.1 บก.ป. ได้ประสาน พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว แจ้งว่าขณะนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ซึ่งยังต้องรอผลแพทย์ ที่ผู้เสียหายไปรักษาตัว 2 รพ. อยู่จึงล่าช้า
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาแล้ว ก่อนปล่อยตัวไปตามสิทธิ์ ส่วนที่ผู้เสียหายต้องการดำเนินคดีพยายามฆ่า ก็จะเชิญผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป