วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
หน้าแรกอาชญากรรมศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีคนร้ายสังหาร"ทนายมานพ"ตายคาปั๊มน้ำมัน…ญาติคาใจทำไมกองปราบฯ ไม่จับคนบงการ ?!!

Related Posts

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีคนร้ายสังหาร”ทนายมานพ”ตายคาปั๊มน้ำมัน…ญาติคาใจทำไมกองปราบฯ ไม่จับคนบงการ ?!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันอังคาร ที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องพิจารณาคดี 902 ชั้น 9 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ ที่ อ.2915/2565 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด(สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
-นายนิติพนธ์ หรือ แบน ฉ่ำชื่น คนชี้เป้าและพามือปืนหลบหนี จำเลยที่ 1
-นายปิติ นิชรัตน์ มือปืน จำเลยที่ 2
-นายเสถียร บุญกล้า (คนสนิทอยู่ในบ้าน นายก อบจ.ระยอง) จำเลยที่ 3
ฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และเป็นผู้สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

สำหรับคดีนี้เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.07 น. วันที่ 15 ส.ค.2565
ภายในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตรเลียม ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง คนร้ายมือปืนขับขี่รถ จยย.เข้ามาใช้อาวุธปืนจ่อยิง“ทนายต้อย-มานพ เสถียรเขตต์”ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ ที่นั่งอยู่ในปั๊ม ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กล้องวงจรปิดในปั๊มจับภาพนาทีสังหารได้อย่างชัดเจน จากนั้นคนร้ายขับขี่รถ จยย.ที่ขโมยมาหลบหนี

ต่อมาวันที่ 7 ก.ย.2565 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. นำกำลังตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 (บูรพา 491) ตำรวจ กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าปิดล้อมลานจอดรถ รพ.ระยอง อ.เมืองระยอง จับกุมนายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ซึ่งก่อนหน้านั้นได้จับกุมนายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี มือปืน และนายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น อายุ 57 ปี คนชี้เป้าและพามือปืนหลบหนีได้ที่ กทม. และ จ.แพร่ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ต่อมาตำรวจชุดคลี่คลายคดีตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างตำรวจกองปราบฯ และตำรวจ บช.ภ. 2 สืบสวนขยายผลคลายปมสังหารเพื่อเอาผิดไปถึงผู้เกี่ยวข้องรายอื่นรวมถึงผู้จ้างวาน โดยปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยกว่า 8 แห่ง พบปืนลูกโม่ สมิทแอนด์เวสสัน .38 สีดำ 1 กระบอก ที่บ้านเลขที่ 112/45 หมู่ 1 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ต่อมา กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจเปรียบเทียบเกลียวปืนกระบอกดังกล่าวกับหัวกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุแล้วยืนยันว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันว่านายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี เป็นผู้จัดหาและสั่งซื้อปืนกระบอกนี้ในช่วงก่อนเกิดเหตุเพียง 10 วัน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ

เบื้องต้นนายเสถียรให้การปฏิเสธอ้างเป็นเพียงลูกจ้างอัตราจ้างของ อบจ.ระยอง รวมทั้งยังเป็นพ่อบ้านและช่วยขับรถให้นายกช้าง-นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง พี่ชายคนโตของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับคดีนี้ ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนกองปราบฯ สอบสวนขยายผล
มีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่ถูกจับกุมตัวไปแล้วนั้น
ทั้งนี้มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ยังออกหมายจับนายชัชชาย หรือขาว ปาตมิตร ผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญเป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นใน จ.ระยอง อีกหนึ่งคน นับเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมไปถึงตัวผู้จ้างวาน เนื่องจากเป็นผู้นำเงิน 80,000 บาทไปจ่ายให้มือปืนและเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้จ้างวานกับกลุ่มมือปืนที่รับงานสังหารครั้งนี้ จากนั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีข้อมูลด้วยว่านายชัชชายมีความเชื่อมโยงกับซุ้มมือปืนต่างๆใน จ.เพชรบุรี

ผ่านมา 1 ปี วันที่ 29 ส.ค.66 นางอุทัย เสถียรเขตต์ นางศันสนีย์ เจริญศึกษา นายศรายุทย์ เสถียรเขตต์ แม่และพี่น้องทนายมานพ เข้าร้องขอความเป็นธรรม ผบก.ป.เร่งขยายผลจับกุมผู้บงการสังหารทนายมานพ ทางครอบครัวเชื่อว่าปมการสังหารน่าจะมาจากการเมืองท้องถิ่น
แม้คดีนี้จะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนทราบว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้อีกหลายคนและมีผู้ถูกออกหมายจับแล้วหลบหนีไป
และที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี

ประกอบด้วย

  1. นาย ป.นักการเมืองท้องถิ่น เป็นผู้ร่วมใช้จ้างวานฆ่า
    2.นาย ก.ลูกน้องคนสนิท ทำหน้าที่เป็นผู้โอนเงินค่าจ้างฆ่าให้กับกลุ่มมือปืน หลังเกิดเหตุ
    3.นาย ว.เป็นผู้ใช้โทรศัพท์และโอนเงินค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มมือปืนก่อนเกิดเหตุ
    4.นาย อ.และ 5.นาง อ.ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนของกลางในคดีนี้

แต่คดีนี้เป็นคดีที่มีผู้มีอิทธิพลมากบารมีเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยอง
คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกองปราบปรามยังไม่มีการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวทางครอบครัวผู้ตายเชื่อว่าถูกอำนาจมืดทางการเมืองครอบงำหรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในชั้นพนักงานสอบสวน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ 15 สิงหาคม 2565 จนถึง 15 สิงหาคม 2566 ระยะเวลาผ่านไป 1 ปี เศษ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนฯ ยังไม่มีการออกหมายเรียกผู้ร่วมจ้างวานฆ่ามารับทราบข้อกล่าวหาตามคำแนะนำของศาลให้ออกหมายเรียก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหามีตำแหน่งหน้าที่และที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
พยานหลักฐานในคดีที่เชื่อมโยงไปถึง นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยองกับพวก พยานหลักฐานดังกล่าวได้มาจากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกๆ ด้านของ พ.ต.อ.บัญชา คล้ายน้อย อดีต ผกก.สืบสวน 2 บช.ภ.2 กับพวกและการสืบสวนของ กองปราบปราม ที่พนักงานอัยการอ้างเป็นพยานในคดี และ พ.ต.อ.บัญชา กับพวกได้เบิกความในชั้นศาลไปแล้วว่านักการเมืองท้องถิ่น กับพวกเกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างไร

แต่คดียังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ พ.ต.อ.บัญชา ถูกย้ายด่วนไปเป็น ผกก.ฝ่ายอำนวยการ บช.ภ.5 โดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งที่ไม่ได้สมัครใจย้าย สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีน้องชายของ นายก อบจ.ระยอง เป็น รมช.สาธารณสุข ที่ไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปค้นบ้าน นักการเมืองท้องถิ่นรายนี้และได้ อาวุธปืน กระสุนปืน จำนวนมากมีทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดนบรรดาลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นรับเป็นเจ้าของอาวุธปืน

ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นกับนายชัชชายหรือขาว ปานมิตร คนขับรถรู้ตัวขับรถพาออกจากบ้านเพราะข่าวรั่วจากตำรวจรับใช้โทร.แจ้งว่า พ.ต.อ.บัญชา จะเข้าตรวจค้นบ้าน

นางศันสนีย์ เจริญศึกษา พี่สาวทนายมานพ กล่าวครอบครัวต้องอยู่ด้วยความระหวาดระแวง โดยเฉพาะมารดาที่อายุมาก เนื่องจากมีการขับรถติดตาม ข่มขู่ รวมทั้งดูราดราว การใช้ชีวิตของครอบครัว เกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อครอบครัว อีกทั้งทางคดี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้รวมทั้งหมด 3 คน มีความเชื่อมโยง ประกอบด้วย มือปืน คนพาหนี และอีกหนึ่งคนเป็นผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ส่วนรายที่ 4 ในการสังหารน้องชาย ได้หลบหนี โดยทำหน้าที่เป็นคนติดต่อจากผู้บงการในการรับงาน เพื่อมาสังหารน้องชาย โดยจะทำหน้าที่ประสานกับกลุ่มนักการเมืองระดับประเทศ ที่เป็นผู้บงการใหญ่ ซึ่งทางครอบครัวมีหลักฐานชัดเจนว่า กลุ่มคนเหล่านี้ เป็นลูกน้อง ของนักการเมืองท้องถิ่นประจำ จ.ระยองอย่างชัดเจน อีกทั้งกลุ่มมือปืนยังมีความสัมพันธ์กับตำรวจและข้าราชการยุติธรรม เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ส่วนสาเหตุเชื่อว่ามาจากการที่น้องชาย เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านมาโดยตลอด และมีการให้คำแนะนำกับนักการเมืองที่อยู่พรรคตรงข้าม และนักการเมืองท้องถิ่น อาจก่อให้เกิดความไม่พอใจ และกำลังลงรับสมัครเลือกตั้ง สส. ที่ผ่านมา และเกิดความขัดแย้งกับฝ่ายตรงข้าม จึงได้มีการจ้างวานให้มาสังหารน้องชายในปัจจุบัน

นายกิตติภัทร กุลไชย ทนายความ กล่าวว่า หลักฐานที่นำมาให้ตำรวจวันนี้ มีความชัดเจนว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนตำรวจกองปราบจะทราบข้อมูลหรือไม่ตนเองไม่ทราบ แต่อยากให้ตำรวจเร่งรัดในการดำเนินคดี เพราะขณะนี้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังไม่เผาศพ เพราะรอจนกว่าจะจับตัวผู้บงการได้

ผ่านมา 1 ปี 2 เดือน 9 วัน ญาติพี่น้องทนายมานพ เชื่อว่า ที่กองปราบยังไม่ดำเนินคดีผู้บงการนับแต่นางอุทัย ไปร้องทุกข์ เชื่อว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องและแทรกแซงการทำคดีของกองปราบฯ จึงส่งผลทำให้คดีนี้ล่าช้ามาถึงทุกวันนี้

รอดูกันว่า ศาลจะลงโทษผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่ร่วมกันสังหารทนายมานพ อย่างไร ในวันอังคารที่ 24 ตุลาคมนี้ ส่วนผู้บงการ และผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ กองปราบปราบ จะขยายผลสืบสวนสอบสวนเอาผิดได้หรือไม่มารอดูกัน ?!!

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts