เมื่อเวลา 09:30 น. วันที่(25 ตุลาคม 2566)
เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดจันทบุรี เดินทางลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า อ.ท่าใหม่ เพื่อตรวจสอบกรณีคณะครูอำนวยผู้อำนวยการโรงเรียน จัดทริปเที่ยวเวียดนามเมื่อช่วงวันที่ 3-6 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา จนมีเพจดังนำเรื่องราวดังกล่าวมาแฉจนเป็นข่าวใหญ่
ขณะขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณประตูรั้วโรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า ทางเจ้าหน้าที่ลงไปเพื่อแสดงเจตจำนงขอเข้าไปตรวจสอบแต่ทางเจ้าหน้าที่โรงเรียนห้ามไม่ให้นักข่าวเข้าพื้นที่อนุญาตเพียงเจ้าหน้าที่จากคณะ ปปช. เท่านั้นที่จะเข้าไปได้จนเกิดมีปากเสียงกันเล็กน้อย ทำให้ผู้สื่อข่าวโยนคำถามไปว่าทำไมถึงไม่ให้เข้ามีเรื่องอะไรต้องปกปิดหรือทำเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลประตูถึงกับเงียบ เวลาต่อมาคณะกรรมการ ปปช. ได้เจรจาจนสามารถให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปภายในโรงเรียนได้ จากนั้นได้ขึ้นห้องประชุมโดยขอประชุมเพียงเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นักข่าวเข้าไปทำข่าวด้านในห้องประชุม เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง
.. นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดจันทบุรี ได้ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเบื้องต้นเบื้องต้นว่า ..
“ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางคณะกรรมการได้ขอตรวจสอบเอกสารการจ่ายเงินในการซื้อทัวร์ของ ”บริษัทไร่ช่อฟ้าทัวร์“ หัวละ 19,500 บาท โดยมีการโอนเงินให้บริษัททัวร์จำนวน3ครั้ง ครั้งแรก วันที่ 2 มิถุนายน เป็นจำนวนเงิน 150,900 บาท โอนเงินครั้งที่ 2 วันที่ 20 กันยายน จำนวนเงิน 159,000 บาท และจ่ายเพิ่มเติมครั้งที่ 3 วันที่ 18 สิงหาคม เนื่องจากมีบุคคลภายนอกไปเพิ่มอีก 5 คน รวมทั้งหมดมีผู้เดินทาง 21 คน จากทริปนี้
โดยเบื้องต้นทราบว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนจากบัญชีของคนในกลุ่ม
ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบการโอนเงินเข้าออกบัญชีว่ารับเงินมาจากใครบ้างสอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ส่วนการเดินทางในวันดังกล่าวนั้นยังไม่ปิดภาคเรียน มีการขอลากิจโดยถูกต้อง “แต่ไม่มีการทำบันทึกขออนุมัติเดินทางไปต่างประเทศ” โดยทางคณะได้แจ้งไปทางผู้อำนวยการประถมศึกษาแล้ว ให้มีการตรวจสอบการกระทำความผิดนี้ด้วย
ส่วนการจัดกิจกรรมลูกเสือนั้น ตรวจสอบแล้วมีการจัดกิจกรรมขึ้น 3 ช่วง มีช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่6 วันที่ 15 กุมภาพันธุ์ 2566 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 วันที่ 16-17 กุมพันธุ์ 2566 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 ในวันที่ 2-3 มีนาคม 2566 โดยทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารเอกสารหลักฐานและฎีกาการขอเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมด และจะนำมาประมวลผลเพื่อสรุป หาข้อมูลที่แท้จริงพร้อมกับชี้แจงให้กับผู้สื่อข่าวทราบต่อไป โดยจะใช้เวลาอีกประมาณ2วัน
..“ ส่วนผู้ช่วงเช้ามีเหตุการณ์จรมูลเกิดขึ้นเนื่องจากทางโรงเรียนปิดประตูไม่ยอมให้คณะทำงานและผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปภายในโรงเรียนจนตัวผู้อำนวยการเองต้องลงไปเจรจาเพื่อขอเข้าไปปฏิบัติหน้าที่โดยเบื้องต้นยอมให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเข้าไปฝ่ายเดียวไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวติดตามเข้าไปด้วยเวลาต่อมาได้เจรจาจนยอมให้ผู้สื่อข่าวสามารถเข้าไปภายในโรงเรียนได้ โดยไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
