ในความหมายหลายบริบท…ที่ถูกนำมาต่อยอดแนวคิด สะท้อนเป็นคำเน้นย้ำให้เข้าใจความหมายนั้นๆ เพื่อเตือนสติ ย่อมมีผลดีกับการหยิบฉวยนำมาใช้ เป็น ขวัญ-กำลังใจ
กับชีวิตแต่ละอาชีพได้มากมาย…. ยกตัวอย่าง…คำว่า “อินทรีย์” เป็นที่รู้กันทั่วไป หมายถึง “นกอินทรีย์” เป็นพญานกโฉบบินบนท้องฟ้า หาเหยื่อที่มีชีวิตเป็นพลังงาน มีอายุยาวนานถึง70 ปี
มีนายตำรวจใหญ่ในอดีต….พล.ต.อ.บุญทิน วงษ์รักมิตร ได้รับฉายา เป็น “อินทรีย์อีสาน” จากผลงานปราบปรามเสี้ยนหนามสังคม ได้ราบคาบไปทั่วภาคตะออกเฉียงเหนือ
จนกระทั่ง…พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เติบโตไต่เต้าขึ้นมาในแดนอีสานก็ได้บฉายานี้แทน
ความหมายก็คงหมายถึง…จุดเด่นในผลงานของท่านทั้ง 2 มีผลงานด้านปราบปรามผู้ร้าย นั่นเอง
ปัจจุบัน…ความหมายของเครื่องหมาย “มือปราบ” ระดับ “อินทรีย์อีสาน” ไม่มีใครได้รับการต่อยอด สืบทอดตำแหน่งนี้อีกเลย
อยู่ๆ…มีรูปปั้นเป็น “นกอินทรีย์” บินไปเกาะบนหลังคา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ยุค…”บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ขึ้นมารับผิดชอบ
หลายสายตา… มองไปว่าเป็นการ “เล่นของ” นำเอารูปปั้น นกอินทรีย์ ที่อาจารย์ระดับเซียน ปลุกเสกให้ ขึ้นไปเกาะเป็นการแก้เคร็ดบางอย่าง
หรือ…มีความหมายไปในทาง เป็นการ “ตัดไม้ข่มนาม” ไม่ให้ใครมาแย่งอำนาจ ที่ต้องสืบทอดกันมา
หรือ…ใครจะนำเอาความเสื่อมมาใส่ไว้ที่นี่, ก็มีนกอินทรีย์คอยฆ่าตัดตอนให้ได้
คิดไปได้ในหลายบริบท…ที่สิ่งไม่งามเกาะติดอยู่ในร่างตำรวจมากขึ้นทุกวัน…กระนั้นหรือ??
“ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” ก็เข้าใจไปว่า ไม่ใครใหญ่กว่าตำรวจ
นอกจาก…ผู้ร้าย!!ความเป็นจริงที่จับต้องได้…ในสายตาประชาชน เขาก็เห็นอยู่ในตัวตนตำรวจ ชัดเจนมานานแล้ว
เขาอยากรู้เหมือนกัน…เมื่อนกอินทรีย์บินไปเกาะหลังคาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสัญลักษณ์ ที่พอสะท้อนถึง “ผลงาน” ที่แท้จริงในทิศทางใดบ้าง
ที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้ ในเมื่อทุกฝ่ายยังมองเห็นซ้ำๆแบบเดิมๆ พวกคุณขาด “คุณธรรม” จึงมองไม่เห็นตัวคนมี “คุณภาพ” ใช่ไหมครับ!!
