กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.5 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นางสาววิภารัตน์ฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.591/2566 ลง 25 ตุลาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 ผู้เสียหายได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย แจ้งว่ามีการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดและฟอกเงินพร้อมกับตรวจยึดสมุดบัญชีของผู้เสียหายได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะต้องอายัดเงินในบัญชีของผู้เสียหายและครอบครัวทุกบัญชี จากนั้นคนร้ายได้ให้ผู้เสียแอดไลน์ ชื่อ กลุ่มงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคีรีมาศ และมีการโทรผ่านวีดีโอคอลแสดงตัวเป็นตำรวจและหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ตรวจสอบ โดยคนร้ายได้ใช้บัญชีธนาคาร น.ส.วิภารัตน์ฯ (ผู้ต้องหานี้) เป็นบัญชีรับโอน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปตามที่คนร้ายแจ้งรวมกว่า 1 ล้านบาท ต่อมาทราบว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายกลุ่มนี้
พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหานี้ กับพวกรวม 5 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหานี้ หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหานี้ยังเป็นเจ้าของบัญชีรวม 32 บัญชี น่าเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายอาจในไปใช้ในการกระทำความผิดอื่นๆ อีก ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย ปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบ อย่าหลงเชื่อโอนเงินให้กับบุคคลอื่นไม่ว่าจะใช้กลอุบายใดๆ ยึดหลัก “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน”
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5 บก.ป.โทร. 0648156699